ด้วยวิถีชีวิตของคนเมืองในยุคปัจจุบัน “กระบอกน้ำ” เป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะ “กระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิ” ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะช่วยทำให้เรามีน้ำร้อนหรือน้ำเย็นเอาไว้ดื่มได้อย่างยาวนาน

แต่คนส่วนใหญ่คิดว่า “กระบอกน้ำ” ที่ล้างแล้ว ดูสะอาดดี ก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่จริง ๆ แล้วกลับกลายเป็น “รัง” ของแบคทีเรีย หากทำความสะอาดไม่ทั่วถึง หรือไม่ทำความสะอาดทันทีหลังใช้งานเสร็จ

เมื่อใช้ กระบอกน้ำ หรือกระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิ ควรทราบถึงสิ่งเหล่านี้เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ!

เมื่อใช้กระบอกน้ำ ทุกคนคิดว่าการทำความสะอาดนั้น ง่ายมากๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว หลายคนมองข้าม “มุมอับ” โดยเฉพาะบริเวณก้นของกระบอกน้ำ นี่คือจุดที่แบคทีเรียสามารถสะสมได้ง่ายที่สุดโดยไม่มีใครสังเกตเห็น เนื่องจากทำความสะอาดได้ยาก และเรามองไม่เห็น

สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่า สิ่งสกปรกและคราบพลัคที่สะสมเป็นเวลานานที่ก้นของกระบอกน้ำ ไม่เพียงแต่สร้างสภาวะให้แบคทีเรียเจริญเติบโต แต่ยังส่งผลต่อคุณภาพของน้ำที่เราดื่มเข้าไปในแต่ละวันด้วย ก้นของกระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิ มักเป็นบริเวณที่ถูกมองข้าม เพราะเป็นเรื่องยากที่จะเช็ดถูทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง จึงกลายเป็นที่อยู่ของเชื้อโรคมากมาย ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากไม่ทำความสะอาดกระบอกน้ำอย่างเหมาะสม!

วิธีทำความสะอาด “กระบอกน้ำ”

  1. ที่บริเวณก้นและด้านข้างภายใน

ก้นกระบอกน้ำถือเป็น “มุมอับ” ยากจะเข้าไปทำความสะอาดได้ทั่วถึง แต่เรามีเคล็ดลับง่าย ๆ มาฝาก นั่นคือการใช้ “เปลือกไข่” และ “น้ำส้มสายชู”

หลังจากต้มไข่แล้ว อย่าทิ้งเปลือก เก็บเอาไว้ บดเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วใส่เข้าไปในกระบอกน้ำ จากนั้นเทน้ำส้มสายชูลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ เติมน้ำอุ่น 1 ใน 3 ของขนาดกระบอกน้ำ (ใช้น้ำอุ่นเท่านั้น ห้ามใช้น้ำเดือด เพราะจะทำให้เปิดฝากระบอกน้ำในภายหลังยาก)

ปิดฝากระบอกน้ำให้แน่น จากนั้นเขย่ากระบอกน้ำแรง ๆ ประมาณ 3 นาที เพื่อให้เปลือกไข่ น้ำส้มสายชู และน้ำอุ่น สัมผัสกับก้นของกระบอกน้ำและ “มุมอับ” ภายใน

หลังจากเขย่าแล้ว ให้เปิดฝาแล้วเทส่วนผสมทั้งหมดออก จะเห็นว่าสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ก้นกระบอกน้ำได้ถูกขจัดออกมาแล้ว

การทำความสะอาดกระบอกน้ำด้วยเปลือกไข่ที่บดนั้น มีประสิทธิภาพสูงมาก ด้วยคุณสมบัติของเปลือกไข่ที่บดแล้วจะกลายเป็นอนุภาคแข็ง ซึ่งเมื่อเขย่าจะชนกับผนังกระบอกน้ำด้านใน ช่วยทำความสะอาด และยังขจัดคราบต่าง ๆ อีกด้วย

ส่วนประกอบหลักของเปลือกไข่คือ แคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งจะทำปฏิกิริยากับแร่ธาตุในน้ำ เกิดเป็นสารที่ละลายน้ำได้ง่าย ช่วยทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกัน น้ำส้มสายชูที่เป็นกรด ยังช่วยละลายสารตกค้างที่ก้นกระบอกน้ำ ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำความสะอาด

  1. ปากขวด

ในการทำความสะอาดกระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิ นอกจากจะทำความสะอาดก้นขวด และผนังด้านในแล้ว ปากขวดก็เป็นบริเวณที่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาด เพราะทุกครั้งที่เราดื่มน้ำ ลิปสติก หรือน้ำลายของเราจะติดอยู่ ทำให้เชื้อแบคทีเรียเติบโตได้ หากไม่ทำความสะอาดให้ดี

ในการทำความสะอาดปากขวด ใช้ “ยาสีฟัน” และ “แปรงสีฟันเก่า” บีบยาสีฟันเล็กน้อยลงบนปากขวด จากนั้นทำให้แปรงเปียก และขัดปากขวดเบา ๆ ยาสีฟันไม่เพียงแต่ช่วยทำความสะอาด แต่ยังปลอดภัยเมื่อสัมผัสกับปากขวดอีกด้วย ขนแปรงจะช่วยทำความสะอาดรอยแยกเล็ก ๆ หลังจากขัดเสร็จให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นเราก็จะได้กระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิที่สะอาดเหมือนใหม่.

ที่มา: Aboluowang, Soha