เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 67 ที่ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดตัวระบบย้ายข้าราชการครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือระบบ Teacher Rotarion System (TRS) โดยมี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน พร้อมผู้บริหารระดับของของ ศธ. เข้าร่วม

โดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า ระบบจับครูย้ายครู TRS โฉมใหม่นี้ ถือเป็นหนึ่งในนโยบายเรียนดีมีความสุขของตนในเรื่องลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษาประเด็นครูคืนถิ่น และถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ข้าราชการครูด้วย ซึ่งที่ผ่านมาตนทราบปัญหาดีว่า ความสุขของครูจะเกิดขึ้นไม่ได้หากครูไม่ได้ย้ายกลับสู่ถิ่นกำเนิดของตัวเองอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม โดยระบบย้ายครู TRS เป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินการย้ายครู ช่วยลดขั้นตอนภาระงานธุรการเมื่อครูต้องไปยื่นเอกสารขอย้ายตั้งแต่การลงทะเบียนรับเอกสารการย้ายจากตัวบุคคล แต่ขณะนี้ระบบย้ายครูจะกรอกเข้าระบบ TRS พร้อมทั้งครูที่ยื่นประสงค์ขอย้ายสามารถตรวจสอบได้ว่า ข้อมูลการย้ายของตัวเองได้เข้าสู่ระบบครบถ้วนหรือไม่ และมีเอกสารตกหล่นหรือไม่ โดยระบบย้ายครู TRS จะเปิดระบบย้ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 ม.ค. 68 นี้ ซึ่งจะเป็นการยื่นคำร้องขอย้ายครูรอบแรกของภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 ทั้งนี้ ระบบย้ายครูดังกล่าว ได้มีการทดรองนำร่องการใช้งานมาแล้ว และถือว่าผลการตอบรับของการใช้งานระบบนี้ได้ถึง 99% ซึ่งตนเชื่อว่าระบบมีความสมบูรณ์มากที่สุด

ต่อข้อถามว่า ระบบย้ายครู TRS แบบใหม่นี้ จะปิดช่องว่างการทุจริตที่มีสโลแกนว่าการย้ายครูแต่ละครั้งมีการเรียกรับเงินหลักแสนบาทได้อย่างไร เพราะสุดท้ายผู้อนุมัติย้ายคือ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ซึ่งตนยืนยันว่าปิดช่องทางการทุจริตและการเรียกรับเงินได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะประเด็นการตกเบ็ดหลอกเรียกรับเงินวิ่งเต้นในการย้ายครู เพราะเอกสารการการย้ายครูได้ถูกลงระบบ TRS แล้ว อีกทั้งสถานะในระบบจะขึ้นแจ้งเตือนให้เองว่าครูที่แจ้งขอย้ายตอนนี้สถานะการย้ายไปอยู่ที่ขั้นตอนไหน จึงไม่สามารถมาหลอกลวงเรียกรับเงินเรื่องการย้ายได้ ดังนั้นคำโบราณที่บอกว่า เรียกรับย้ายกิโลละแสนจะหมดไปแน่ ซึ่งอำนาจของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาในการพิจารณารับย้ายยังคงอยู่

“เรื่องของการย้ายครูนั้น ในหนึ่งโรงเรียนอาจมีผู้สมัครใจขอย้ายหลายคน ก็จะมาดูในเกณฑ์เชิงคุณภาพว่า ครูผู้ขอย้ายมีคุณสมบัติเหมาะสมอย่างไร เช่น ผลการสอนของครูทำให้เด็กมีคุณภาพการศึกษาที่ดีหรือไม่ หรือกรณีการย้ายครู ในกลุ่มวิชาภาษาอังกฤษ แต่มีความรู้ทักษะภาษาจีนพ่วงมาด้วย ก็ถือว่ามีสิทธิ เพราะมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ ดังนั้น อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่สามารถใช้ดุลพินิจได้เองว่า ครูที่ขอย้ายมีคุณสมบัติเหมาะสมหรือไม่” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว