เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เพื่อช่วยเหลือ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ขวบ หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองเพื่อน ด.ญ.เอ ว่า ด.ญ.เอ ถูกปู่และอาแท้ๆ ร่วมกันล่วงละเมิดทางเพศมาเป็นเวลานานกว่า 2 ปี โดยที่คนในบ้านรู้เรื่องกันหมดแต่ไม่ยอมให้การช่วยเหลือ กระทั่ง ด.ญ.เอ ต้องมาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับเพื่อนฟัง จนเพื่อนไปเล่าให้ผู้ปกครองฟังและนำไปสู่การแจ้งเรื่องร้องเรียนไปยังมูลนิธิเป็นหนึ่งดังกล่าว

โดยทันทีที่เดินทางลงพื้นที่โรงเรียนของ ด.ญ.เอ ต้นอ้อ ได้เข้าไปพูดคุยและสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากตัวของ ด.ญ.เอ ด้วยตนเอง ก่อนจะพา ด.ญ.เอ พร้อมด้วยเพื่อนอีก 1 คนเดินทางมาที่ สภ.ท่าม่วง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอท่าม่วง เข้าร่วมรับฟังการสอบปากคำในครั้งนี้ด้วย
ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า กรณีนี้ ทางมูลนิธิเป็นหนึ่ง ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ปกครองของเด็กซึ่งเป็นเพื่อนของ ด.ญ.เอ โดยจากข้อมูลพบว่า ปัจจุบันมาอาศัยอยู่ที่บ้านของอาในพื้นที่อำเภอท่าม่วง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อช่วงประมาณเกือบ 2 ปีก่อน ได้ถูกอาซึ่งอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน พยายามก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศหลายครั้ง กระทั่ง ด.ญ.เอ ขอไปอาศัยอยู่บ้านญาติในพื้นที่จังหวัดราชบุรี ก็มาถูกปู่แท้ๆ ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศอีกหลายครั้ง กระทั่ง ด.ญ.เอ ได้กลับมาอยู่บ้านญาติที่อำเภอท่าม่วง ทางปู่ก็ได้ตามมาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวด้วย ทำให้ ด.ญ.เอ ต้องอยู่อย่างหวาดกลัว เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะถูกทั้งปู่และอาเข้ามาก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศอีก

ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง กล่าวว่า แต่สิ่งที่น่าสะเทือนใจที่สุด ก็คือการที่ ด.ญ.เอ ได้พยายามบอกเรื่องดังกล่าวกับผู้เป็นพ่อแท้ๆ และแม่เลี้ยง ซึ่งไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด แต่แม่เลี้ยงทำได้เพียงกั้นห้องภายในบ้านหลังที่น้องอาศัยอยู่ร่วมกับปู่และอา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้น แต่ปู่และอาก็ยังไม่ละความพยายามและพยายามก่อเหตุกับน้องอีกหลายครั้ง
“ขณะที่พ่อแท้ๆ ของเด็กเอง ไม่รู้เรื่องแล้วกลับขอให้เด็กไม่แจ้งความ เนื่องจากเกรงว่า จะทำให้พ่อของตนซึ่งเป็นปู่ของเด็กเสื่อมเสียชื่อเสียงและอาจจะถูกจับดำเนินคดี โดยหลังการเดินทางลงพื้นที่วันนี้ จะได้มีการประสานให้เด็กไปอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนจะหารือแนวทางการดำเนินคดีกับปู่และอาของเด็กต่อไป” ต้นอ้อ กล่าว