จากผลสำรวจของเว็บไซต์แมทเทรสส์ แอดไวเซอร์แห่งสหรัฐ พบว่า คนส่วนใหญ่เปลี่ยนผ้าปูที่นอนทุก 24.4 วัน หรือเฉลี่ยแล้วประมาณ 1 ครั้งต่อ 3 สัปดาห์

ค่าเฉลี่ยนี้อาจแตกต่างกันไปตามนิสัยส่วนตัวและบรรทัดฐานทางวัฒนธรรม การวิจัยชี้ให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่มักจะเลื่อนการซักผ้าปูที่นอนออกไปนานกว่าที่แนะนำ เนื่องจากไม่มีเวลาหรือลืม 

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า แม้พฤติกรรมเช่นนี้จะเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ไม่ใช่พฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพ การสร้างกิจวัตรในการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและซักผ้าปูที่นอนเป็นประจำจะช่วยให้มีสุขอนามัยที่ดีขึ้นและนอนหลับได้สบายขึ้น

เดอะ สลีป ฟาวเดชันซึ่งเป็นองค์กรศึกษาเรื่องการนอนหลับชี้ว่า เราควรซักผ้าปูที่นอนเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง แต่ควรจะทำบ่อยกว่านั้น หากปล่อยให้สัตว์เลี้ยงในบ้าน เช่น หมา แมว นอนร่วมเตียงด้วย นอกจากนี้ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้, หอบหืดหรืออยู่ในสภาวะที่มีอากาศร้อนจนทำให้เหงื่อไหลตอนนอน ก็ควรจะเปลี่ยนผ้าปูที่นอนมากกว่าสัปดาห์ละครั้งเช่นกัน

“ผ้าปูที่นอนของคุณจะเต็มไปด้วยแบคทีเรียอย่างรวดเร็วพอ ๆ กับจานเพาะเชื้อโรคในห้องทดลอง” ดร. เดโบราห์ ลี ผู้เชี่ยวชาญจากร้านขายยา “ดร. ฟ็อกซ์ ออนไลน์” อธิบาย “จากการศึกษากรณีหนึ่งพบว่า ก้านสำลีที่ใช้เก็บตัวอย่างจากผ้าปูที่นอนที่สกปรกมีแบคทีเรียมากกว่าจากที่นั่งชักโครกถึง 17,000 ชนิด”

หากละเลยการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนเป็นประจำอาจทำให้มีคราบสกปรกและไขมันสะสม ซึ่งไม่ดีต่อผิวหนังและหนังศีรษะของเรา ทั้งยังทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่อับชื้นและไม่สบายตัวขณะหลับ

โทบิน เจมส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการยศาสตร์การนอนจาก TEMPUR แนะนำให้ซักผ้าปูที่นอนทุกสัปดาห์ แต่ถ้ามีสัตว์เลี้ยงนอนร่วมเตียงด้วย ซึ่งจะทำให้มีขนสัตว์ รังแค และสิ่งสกปรกจากตัวสัตว์เลี้ยงตกค้างบนผ้าปูที่นอน ในกรณีนี้จึงควรเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ทุก 3-4 วัน

ดร. ฮานา พาเทล ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับประจำของ Time4Sleep เผยว่า เมื่อเรานอนหลับ เราจะทิ้งเส้นผม เซลล์ผิวหนัง น้ำลาย และสิ่งสกปรกจากร่างกายอื่น ๆ บนผ้าปูที่นอน คราบสกปรกที่สะสมอาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองหรือเกิดผื่น และทำให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาผิวหนังอื่นๆ มากขึ้น

“เมื่อเวลาผ่านไป ผ้าปูที่นอนของคุณจะสะสมฝุ่นและไรฝุ่น ไรฝุ่นไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ แต่เป็นแหล่งของสารก่อภูมิแพ้ที่อาจทำให้บางคนเกิดอาการแพ้ได้”

ดร.พาเทลอธิบายว่าการไม่ซักผ้าปูที่นอนอาจส่งผลต่อการนอนหลับโดยตรง และไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราอาจจะนอนหลับไม่ได้ดี หากรู้สึกไม่สบายตัวเพราะผ้าปูที่นอนไม่สะอาด

นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างสุขภาพผิวและการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนอีกด้วย ดร.ฮัมดาน อับดุลลาห์ ฮาเหม็ด แพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เมื่อผิวของเรามีความมันหรือขับน้ำมันออกมา ผ้าปูที่นอนจะดูดซับน้ำมันเหล่านี้ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสิวได้ 

“หากคุณมีโรคผิวหนังอักเสบ เช่น กลาก สะเก็ดเงิน หรือผิวหนังอักเสบ ควรซักผ้าปูที่นอนบ่อยขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคือง” ดร.ฮาเหม็ดอธิบาย นอกจากนี้ เขายังชี้ว่า ผ้าปูที่นอนที่สะอาดมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพของหนังศีรษะ “เมื่อหนังศีรษะของใครที่สภาพบอบบาง ปลอกหมอนที่สกปรกอาจทำให้สุขภาพหนังศีรษะแย่ลง อาจทำให้เกิดรังแคหรืออาจถึงขั้นผมร่วงได้”

ที่มา : countryliving.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES