สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ว่า สำนักงานคณะผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ระบุว่า การสอบสวนดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่เซมิคอนดักเตอร์พื้นฐาน ซึ่งเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ทุกประเภท ตั้งแต่รถยนต์ ไปจนถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงพิจารณาว่า การดำเนินการของจีน สร้างภาระให้กับการค้าของสหรัฐหรือไม่
“ความกังวลคือ แนวทางปฏิบัติของรัฐบาลปักกิ่ง จะบ่อนทำลายความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมสหรัฐ และคนงานชาวอเมริกัน รวมถึงห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญ และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ” ยูเอสทีอาร์ ระบุเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลปักกิ่งประณามความเคลื่อนไหวของสหรัฐ ว่าเป็น “การกีดกันทางการค้า” พร้อมทั้งให้คำมั่นว่า จีนจะปกป้องผลประโยชน์ของตน และเรียกร้องให้รัฐบาลวอชิงตัน “ยุติแนวทางปฏิบัติที่ผิด”
NEW – US probes China chip industry on ‘anticompetitive’ concerns https://t.co/GZ4n5dXvwM
— Insider Paper (@TheInsiderPaper) December 23, 2024
ด้านนางแคทเธอรีน ไท จากยูเอสทีอาร์ กล่าวว่า สหรัฐเห็นรูปแบบผลกระทบที่เป็นอันตราย จากนโยบายและแนวทางปฏิบัติที่ไม่เกี่ยวกับตลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งจีนกำหนดเป้าหมายไว้เพื่อครองตลาดทั่วโลก โดยสิ่งนี้ทำให้บริษัทหลายแห่งสามารถขยายกำลังการผลิตอย่างรวดเร็ว และเสนอชิปราคาถูกกว่าอย่างมาก นับเป็นความเสี่ยงที่จะสร้างความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญ และอาจทำลายการแข่งขันที่เป็นธรรมและมุ่งเน้นตลาดได้
ทั้งนี้ การสอบสวนครั้งล่าสุดของยูเอสทีอาร์ จะมุ่งเน้นไปที่การผลิตเซมิคอนดักเตอร์พื้นฐานของจีนเป็นหลัก รวมถึงขอบเขตการใช้งานในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น อุปกรณ์ทางการแพทย์ และยานยนต์ ตลอดจนพิจารณาว่า นโยบายของรัฐบาลปักกิ่ง เกี่ยวกับปัจจัยการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ มีส่วนทำให้เกิดภาระ หรือข้อจำกัดต่อการค้าของสหรัฐหรือไม่.
เครดิตภาพ : AFP