หายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิงพักใหญ่เลยทีเดียวสำหรับ “แต๊งค์ พงศกร” อดีตดาราชื่อดัง ที่ล่าสุดได้ออกมาเผยถึงสาเหตุที่หายหน้าไปผ่านรายการ “คนแปลงร่าง” เพราะก่อนหน้านี้ หนุ่มแต๊งค์ปาร์ตี้หนักจนลงพุง หนักถึง 80 โล ทำเอาหมดออร่าความหล่อ แม้แต่เพื่อนในวงการยังจำหน้าไม่ได้ ไร้คนจ้างงาน สุขภาพย่ำแย่ สู่การตัดสินใจแปลงร่างพลิกชีวิต มุ่งมั่นลดน้ำหนักได้ถึงเดือนละ 10 กิโล จนทวงคืนร่างทองภายใน 4 เดือนได้สำเร็จ

โดยหนุ่มแต๊งค์ เผยว่า “น้ำหนักที่พุ่งไปถึงเกือบ 80 ส่วนใหญ่มันอยู่ตรงห่วงยางเลยครับผม ที่หน้าท้องข้างๆ แล้วก็ตรงหน้าอกจริง ๆ แล้วต้องพูดแบบนี้ ผมเป็นรูปทรงตัวเล็กอยู่แล้วครับ ขาไม่ใหญ่ แขนไม่ใหญ่ แขนไม่ใหญ่ แรงยกเวทไม่เยอะ แต่ว่าพอปล่อยตัวให้อ้วนเนี่ยมันจะไปจับอยู่ที่พุง กับหน้าอกสะส่วนใหญ่ ทรงร่างกายก็จะเขิน ๆ นิดนึง คือเรากลายเป็นผู้ชายหน้าอกย้วย อยู่ดี ๆ พุ่งขึ้นมา 80 โล 20 ปีที่แล้วนะพี่ ผมอยู่ในวงการ พอผ่านมาเรื่อย ๆ ก็อยู่ในวงจรของการออกงานปาร์ตี้ เจอเพื่อนฝูง กลางวันทำงานกลางคืนไม่นอน ร่างกายก็ทรุดโทรม ด้วยความสูงของผมแล้วก็น้ำหนักของผมตอนนั้นลงไปอยู่ที่ประมาณ 53-54 คือเป็นซี่โครง เป็นกระดูกเลย อาจจะเรียกว่าเป็นการแปลงร่าง 2 ครั้ง จุดเปลี่ยน ก็คือ การที่ผมเริ่มมีครอบครัวครับ พอมีภรรยา มีลูก เราก็ตัดสินใจว่าเราจะเลิกปาร์ตี้ทุกอย่าง อยู่บ้าน เลี้ยงลูก ทำงาน แล้วก็กิน ทีนี้พอปล่อยเวลาแปปเดียว ลูกสามขวบปุ๊ปเนี่ย น้ำหนักพ่อเพิ่มมาเยอะมาก ตอนนั้นน้ำหนักจาก 53 ขึ้นไปเกือบถึง 80 กิโล เป็นคนที่ไม่ออกกำลังกายเลย ถ้านับการออกกำลังกายครั้งสุดท้าย คือสมัย High School คนจำคุณไม่ได้เลย เกือบ 80กิโล ไม่แปลกครับ ช่วงที่ผมตัวหนักจริง ๆ เนี่ย คนทั่วไปจำไม่ได้เลย จากที่เราเคยเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง เดินไปตลาดยิ้มให้แม่ค้า กลายเป็นว่าเราเป็นคนที่ยิ้มให้ เขางง เป็นใคร”

“จุดเปลี่ยนที่มาแปลงร่างตัวเอง หนึ่งก็อย่างที่บอกไปว่าความมั่นใจมันลดลง งานในวงการลดลง ซึ่งเราอยู่วงการมา เราเคยทำงานแสดงละคร พิธีกร งานหายก็หมายถึงรายได้ก็หาย ความมั่นใจลดลง งานลดลง ที่หนักที่สุดคือสุขภาพ พอเราปล่อยตัวเองให้อ้วนมาก ๆ เนี่ย แล้วอายุ 40 กว่า สุขภาพจะเริ่มแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด แล้วเรามีลูก ลูกเราสามขวบอย่างนี้ เราไม่มีแรงที่จะออกไปวิ่งเตะฟุตบอลกับลูก ไม่มีแรงที่จะไปเล่นสวนสนุกกับลูก เราว่ามันไม่ได้แล้ว ใช้วิธีในการลดน้ำหนักสำหรับผมที่เวิร์คที่สุด แล้วทำได้ภายในสี่เดือน คือ เดือนแรกผมงดอาหารก่อน ต้องใช้คำว่าปรับ junk food กินดึก แคลอรี่เท่าไหร่ไม่นับเลย ตื่นมาหิว ก็กิน หิวอีกก็กินอีก เราปรับจากเรื่องของการลดพวกของทอดของมัน เดือนแรกเราปรับอาหารก่อน ซึ่งมันยากแค่วันสองวันแรกนะพี่ เริ่มจากการงดน้ำตาลก่อนเลย ของหวาน ขนมจุกจิก ขนมขบเคี้ยว เดือนแรกลดไป 10 กิโล”

แต๊งค์เผยต่อว่า “เคล็ดลับ เพราะส่วนตัวคเป็นคนไม่กินผักไปศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำ IF ผมทำ 16/8 เดือนแรกงดอาหารเย็น ตื่นมากินมื้อแรกสิบโมงเช้า มื้อสองคือบ่ายสี ไม่ออกกำลังกายเลย ปรับอาหารอย่างเดียว เห็นความสำคัญของอาหารไหม ปรับอาหารอย่างเดียวเท่านั้นแหละ แต่คุณต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง กินไก่ต้ม ไก่ผัดกับน้ำ ข้าว สเต๊กบ้าง เป็นครั้งคราว แต่หลัง ๆ ก็คือยังไงผักก็สำคัญ ช่วงแรกที่เราลด เราปรับอาหารอย่างเดียวมันไม่พอ เพราะน้ำหนักเราลงจริง แต่หุ่นมันไม่ได้ มันเหลว ๆ แล้วตรงนี้มันก็เหมือนเดิม มันยังเกาะอยู่ที่เดิม เราแค่ดูโปร่ง แต่ว่ามันยังห้อยอยู่ เราก็เลยออกกำลังกาย ซึ่งก็คือ ยกเวท คาดิโอ ลองปรับหาจุดที่มันเหมาะกับเรา เดือนที่สองเริ่มออกกำลังกายสามวันต่อสัปดาห์ เดือนที่สามเดือนที่สี่ ออกหกวันแล้วครับ ทุกวันนี้ ใช้เวลา 4 เดือน มีความมั่นใจมากขึ้น คนในครอบครัวเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของเราแล้ว มั่นใจในตัวเรามากขึ้น ฝากความหวังไว้ได้ ทั้งภรรยาหรือพ่อแม่ของผมอะไรอย่างนี้ จะพัฒนาไปเรื่อย ๆ แต่ผมไม่รีบ ผมอยากจะปรับ Mindset ของผมในการดูแลตัวเองให้เป็นไลฟ์สไตล์ไปเลย กินดี 6 วัน ตามใจตัวเอง 6 วัน ออกกำลังกาย ไปเที่ยว จะได้มีความสุขกับลูกไปนาน ๆ ครับ”

ขอบคุณภาพประกอบจาก:“คนแปลงร่าง”