สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงมาปูโต ประเทศโมซัมบิก เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ว่าเจ้าหน้าที่เบอร์นาดิโน ราฟาเอล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของโมซัมบิก เปิดเผยว่า ผู้ต้องขัง 1,534 คน หลบหนีออกจากเรือนจำความมั่นคงสูง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงประมาณ 15 กม.

ทั้งนี้ ในบรรดาผู้ที่พยายามหลบหนี มีผู้เสียชีวิตแล้ว 33 ราย และได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 15 คน จากการปะทะกับเจ้าหน้าที่เรือนจำ ขณะที่ปฏิบัติการค้นหาและไล่ล่า ซึ่งได้รับความสนับสนุนจากกองทัพ ได้นำไปสู่การจับกุมนักโทษประมาณ 150 คน

นักโทษประมาณ 30 คน มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งอยู่เบื้องหลังการก่อความไม่สงบ และการโจมตีในจังหวัดกาโบเดลกาโด ที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ตลอดช่วง 7 ปีที่ผ่านมา

สำหรับความรุนแรงระลอกล่าสุด ที่กินเวลานานหลายสัปดาห์ เกิดขึ้นหลังศาลสูงสุดของโมซัมบิกยืนยันว่า พรรคเฟรลิโม ซึ่งผูกขาดการเป็นรัฐบาล ตั้งแต่ปี 2518 ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา แม้นายดาเนียล ชาโป หัวหน้าพรรค ได้คะแนนเสียงเพียง 65.17% ซึ่งน้อยกว่าผลการลงคะแนนเบื้องต้น ที่ประกาศโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประมาณ 5%

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประท้วงได้เคลื่อนตัวเข้าใกล้เรือนจำ และก่อความไม่สงบ ก่อนที่นักโทษจำนวนหนึ่งสามารถพังกำแพง แล้วหลบหนีออกมาได้

กระทรวงมหาดไทยโมซัมบิกประกาศว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 ราย รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ภายใน 24 ชั่วโมงหลังเกิดการปะทะบนท้องถนน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และเกิด “เหตุรุนแรงร้ายแรง” อย่างน้อย 236 ครั้ง หลังกลุ่มชายติดอาวุธใช้ของมีคมและอาวุธปืนก่อเหตุโจมตีสถานีตำรวจ เรือนจำ และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ.

เครดิตภาพ : AFP