สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (โอเอ็นเอส) ระบุในแถลงการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) แสดงให้เห็นถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจ 0% ในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวครอบคลุมช่วงไม่กี่เดือนแรกที่พรรคแรงงานกลับมาบริหารประเทศ เมื่อเดือน ก.ค. ก่อนการจัดทำงบประมาณที่ทุกฝ่ายตั้งตารอคอย ในช่วงสิ้นเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ทว่าตัวเลขที่ปรากฏ ถือเป็นการตบหน้าเซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ซึ่งเขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
“แนวโน้มเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร ไม่มีความสดใสมากนัก เนื่องจากเศรษฐกิจชะงักงันระหว่างเดือน ก.ค.-ก.ย. ก่อนที่งบประมาณจะสร้างความไม่สบายใจอีกระลอก และทำให้ผลผลิตหดตัวในเดือน ต.ค.” นางซูซานนาห์ สตรีเตอร์ หัวหน้าฝ่ายการเงินและการตลาด จากบริษัท ฮาร์กรีฟส์ แลนส์ดาวน์ กล่าว
อนึ่ง ตัวเลขที่แก้ไขใหม่ ต่ำกว่าการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งอยู่ที่ 0.2% โดยนักวิเคราะห์หลายคนมองว่า การชะลอตัวทางเศรษฐกิจเช่นนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่แน่นอนก่อนการจะทำงบประมาณ
ขณะที่ นางราเชล รีฟส์ รมว.การคลังสหราชอาณาจักร กล่าวถึงตัวเลขเศรษฐกิจข้างต้นว่า ความท้าทายที่รัฐบาลต้องเผชิญ ในการแก้ไขเศรษฐกิจ และจัดทำการคลังสาธารณะให้เหมาะสม หลังจากปล่อยปละละเลยมานาน 15 ปีนั้น ถือเป็นเรื่องใหญ่.
เครดิตภาพ : AFP
