สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ว่า นางเจเน็ต เยลเลน รมว.การคลังสหรัฐ กล่าวในรายงานที่นำเสนอต่อนายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ว่ามีความเป็นไปได้ ที่เพดานหนี้ของประเทศจะถึงขีดจำกัดครั้งใหม่ ระหว่างวันที่ 14-23 ม.ค. นี้


เมื่อถึงเวลานั้น กระทรวงการคลังสหรัฐต้องดำเนินมาตรการที่จำเป็น เพื่อจัดสรรงบประมาณให้รัฐบาลกลางสามารถใช้จ่ายต่อไปได้ และเพื่อป้องกันไม่ให้มีการผิดนัดชำระหนี้เกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจของประเทศ


ทั้งนี้ สภาคองเกรสมีมติในเดือนนี้ ระงับเพดานหนี้ ซึ่งหมายถึงขีดจำกัดในการกู้ยืมของรัฐบาลกลาง เพื่อชำระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นแล้ว จนถึงวันที่ 1 ม.ค. 2568 หมายความว่า จะมีการกำหนดเพดานหนี้ใหม่ในวันที่ 2 ม.ค. เพื่อให้สอดคล้องกับภาระหนี้สาธารณะของประเทศในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงการคลังรายงาน

อย่างไรก็ตาม เพดานหนี้ กลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่สร้างความขัดแย้งให้กับสองพรรคการเมืองใหญ่ของสหรัฐ คือพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา


ทั้งนี้ทั้งนั้น เยลเลนคาดการณ์ว่า มูลค่าหนี้ของสหรัฐจะยังไม่ถึงเพดาน เมื่อการระงับเพดานหนี้สิ้นสุด เนื่องจากกระทรวงการคลังสหรัฐคาดการณ์ว่า หนี้สินของประเทศน่าจะลดลงราว 54,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.84 ล้านล้านบาท) ในวันที่ 2 ม.ค. ที่จะถึง

ปัจจุบัน มูลค่าหนี้สาธารณะของสหรัฐอยู่ที่ราว 36.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,233.70 ล้านล้านบาท).

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES