จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท. บุกจับ นายธีระวัฒน์ ศรีรอด อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 6437/2567 ลง 27 ธันวาคม 2567 ข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” กรณีนำคลิปที่มีน้องแบงค์ เลสเตอร์ ในลักษณะลามกไปเผยแพร่ในโลกโซเชียล ซึ่งถูกจับกุมได้ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน ต.ธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ช่วงบ่ายวานนี้ (28 ธ.ค.) ก่อนถูกนำมาฝากควบคุมตัวที่ สน.ทุ่งสองห้อง
ความคืบหน้า วันที่ 29 ธ.ค. ที่ สน.ทุ่งสองห้อง ช่วงเช้า ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ได้คุมตัวนายธีระวัฒน์ ศรีรอด หรือ “เบิร์ด วันว่างๆ” ออกจาก สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ หลังจากมีข้อมูลว่า นายเบิร์ด วันว่างๆ ถูกทำร้ายร่างกายเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 27 ธ.ค. ก่อนที่จะถูกตำรวจจับกุมตัวช่วงบ่ายวันที่ 28 ธ.ค. ซึ่งถือเป็นการตรวจร่างกายตามขั้นตอนก่อนที่ในวันพรุ่งนี้ (30 ธ.ค.) จะคุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาและหลังตรวจร่างกายเสร็จสิ้น ตำรวจก็พากลับเข้าห้องขังที่ สน.ทุ่งสองห้องทันที
ต่อมาเวลา 12.35 น. ตำรวจได้นำตัวเบิร์ด ออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหา เพื่อไปตรวจร่างกายอีกครั้งซึ่งรอบนี้ นายเบิร์ด ตอบคำถามนักข่าวถึงความกังวลใจเรื่องงานบวชให้กับน้องแบงค์ โดยบอกว่า มีความตั้งใจที่จะบวชให้น้องแบงค์เหมือนเดิม เพราะรับปากแม่กับยายของน้องแบงค์ไว้แล้ว และไม่ได้กังวลเรื่องอะไร อยากจะบวชให้น้องแบงค์อย่างเดียว

ส่วนกังวลหรือไม่ว่าจะบวชไม่ทันงานศพของน้องแบงค์ นายเบิร์ด กล่าวว่า ก็ขึ้นอยู่กับทางศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ซึ่งถ้าศาลไม่ให้ประกันตัว ก็ตั้งใจว่าหากได้ประกันตัววันไหนหรือได้ออกมา ก็จะบวชให้น้องภายหลังทันที โดยยืนยันว่าจะบวชให้อย่างแน่นอน แต่มาโดนตำรวจจับก่อน ซึ่งตนเองไม่ได้มีเจตนาที่จะหนี รับปากอะไรไว้จะทำให้แน่นอน “ใครไม่มาอยู่ตรงนี้ ก็ไม่รู้หรอกว่าผมไม่สามารถออกไปทำในสิ่งที่ตั้งใจได้”
ทั้งนี้ส่วนตัวอยากให้ กัน จอมพลัง เป็นคนกลาง ในการประสานกับวัด เพื่อเตรียมพร้อมให้ตนเองได้บวชหากได้รับการประกันตัวออกมาทันในวันพรุ่งนี้ และไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร เราไปบวชด้วยเจตนาที่ตั้งใจไว้
ส่วนเรื่องเงินเยียวยาครอบครัวน้องแบงค์ นายเบิร์ด บอกว่า มีผู้ใหญ่แนะนำว่าไม่ต้องไปกังวลเรื่องการช่วยเหลือ เพราะมีคนคอยซัพพอร์ตอยู่แล้ว ทำให้ตนเองพุ่งเป้ามาในสิ่งที่รับปากไว้คือเรื่องการบวชมากกว่า
ส่วนประเด็นที่ถูกทำร้าย นายเบิร์ด บอกว่า “ผมไม่อยากพูดถึง ให้มันผ่านไป เพราะได้รับผิดในสิ่งที่ทำแล้ว” ส่วนเรื่องคดีที่ถูกตำรวจไซเบอร์จับนั้น ตนเองได้ให้ปากคำกับตำรวจไปหมดแล้ว ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ทั้งนี้นายเบิร์ด ยอมรับว่า ยังไม่รู้จะประกันตัวยังไงเพราะส่วนตัวไม่มีญาติพี่น้อง อยู่ตัวคนเดียว
ขณะเดียวกันช่วงบ่าย เพื่อนรุ่นน้องที่สนิทกับนายเบิร์ด ได้นำอาหารเที่ยงเป็นไก่ทอด และเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยนชุด ซึ่งทางตำรวจได้ทำการตรวจสอบเสื้อผ้าโดยละเอียดตามขั้นตอน ก่อนจะนำไปให้กับผู้ต้องหาด้วย เพื่อป้องกันอาวุธหรือสิ่งของต้องห้ามต่างๆ