ยืนหนึ่งกรมใหญ่ที่สุดของประเทศไทย (จากทั้งหมด 305 กรม) การันตีด้วยงบประมาณประจำปีมากกว่า 1 แสนล้านบาท สำหรับกรมทางหลวง (ทล.) ผู้อารักขาโครงข่ายทางหลวงแผ่นดินทั่วประเทศกว่า 5 หมื่นกิโลเมตร (กม.)

นอกจากซ่อมบำรุงดูแลรักษาสายทางแล้ว ยังสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านงานทางที่แฝงมิติความสวยงาม เท่ๆ เก๋ๆ แบบอันลิมิเต็ด ปีใหม่นี้ กรมทางหลวงจะเพิ่มความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ใช้เส้นทางด้วยความสดใหม่ก่อสร้างสะพานกลับรถเคเบิลแบบแนวโค้ง (Horizontal curve cable-stayed bridges) แห่งแรกของโลก บนทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) บริเวณ กม.8-9 พื้นที่บ้านหลุบเลา ต.ตาลเดี่ยว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เวอร์ชั่นไอคอนิกใช้เคเบิลรับแรงแทนเสาตอม่อไม่ได้ถูกออกแบบเพื่อเรียกเสียงฮือฮา แต่มาจากหลักการด้านความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ

พาย้อนไปดูที่มาเรื่องนี้ เมื่อ 2 ปีก่อน “ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” ได้สัมภาษณ์อธิบดีทางหลวงคนที่ 33 นายสราวุธ ทรงศิวิไล (เกษียณราชการเมื่อ ก.ย. 2567) เล่าให้ฟังว่า กรมทางหลวงมีสะพานบนโครงข่ายทั่วประเทศ 17,219 แห่ง แบ่งตามฟังก์ชั่นการใช้งาน เป็นสะพานข้ามคลอง/ลำห้วย/บึง/อ่างเก็บน้ำ 15,765 แห่ง สะพานข้ามแม่น้ำ 761 แห่ง สะพานข้ามทางแยก/ถนน 376 แห่ง สะพานข้ามทางรถไฟ 156 แห่ง สะพานกลับรถ (เกือกม้า) กว่า 120 แห่ง และสะพานทางแยกต่างระดับ 41 แห่ง

ครั้งนั้น อธิบดีฯ สราวุธ บอกว่า ….การก่อสร้างสะพานเกือกม้าแบบเดิมที่มีเสาตอม่อกลางถนน ใช้เวลาก่อสร้างนานเสี่ยงอันตรายมากทั้งกับผู้ก่อสร้างและผู้ใช้รถใช้ถนน เนื่องจากการจราจรหนาแน่นและติดขัด เสียพื้นที่นั่งร้าน ได้ให้โจทย์สำนักสำรวจและออกแบบ แสดงศักยภาพการออกแบบวิศวกรรมทางหลวงหานวัตกรรมใหม่ๆ ทำอย่างไร? ให้ไม่มีเสากลางถนน รถที่ผ่านไปมามีทัศนวิสัยที่ดี รู้สึกปลอดภัย กรณีรถเสียหลักจะไม่ชนเสากลางถนน

“นายสมบูรณ์ เทียนธรรมชาติ” ผู้อำนวยการสำนักสำรวจและออกแบบ บอกถึงจุดลงตัวในวันนี้ว่า โมเดลสะพานเกือกม้าใช้เคเบิลรับน้ำหนักโครงสร้างแทนเสาตอม่อ ออกแบบเสร็จแล้ว ได้แท็กทีมผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจและจัดรับฟังความคิดเห็นประชาชนพร้อมก่อสร้างเร็วๆ นี้ เมื่อสร้างเสร็จจะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ด้วย

วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ ผู้อำนวยการกลุ่มงานออกแบบโครงสร้างที่ 1 “ดร.สุกิจ ยินดีสุข” เจ้าของงานดีไซน์ชวนทึ่ง…..ให้รายละเอียดว่า โจทย์คือการก่อสร้างสะพานกลับรถแบบไม่มีเสากลางถนนเพื่อเซฟความปลอดภัย ด้านข้างยกพื้นสะพานด้วยเคเบิล (สลิง) แต่มีค่าก่อสร้างสูงกว่าสะพานแบบมีเสาตอม่อ จึงต้องเลือกพื้นที่ก่อสร้างและพิจารณาหลายองค์ประกอบ อาทิ จุดนี้เป็นชั้นดินแข็ง พื้นที่เขตทาง 60 เมตร มีความเหมาะสมในการใช้เคเบิ้ลยกน้ำหนัก ออกแบบเพื่อดึงการใช้งานให้ครบทั้ง 3 โหมด คือ รถยนต์ทุกประเภท รถจักรยานยนต์ (จยย.) ที่มักย้อนศร รวมทั้งคนเดินข้าม และให้เข้าถึงภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ การรับฟังความเห็น 3 ครั้งผ่านไปได้ด้วยดี ลงตัวด้วยงบประมาณที่ใกล้เคียงรูปแบบเดิม 400 ล้านบาท กำลังคำนวณรายละเอียดราคา คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างเดือน เม.ย. 2568 ใช้เวลา 1,080 วัน เสร็จประมาณปี 71

เมื่อถามถึงไอเดียเฉียบ นับเป็นแห่งแรกในโลกได้หรือไม่??.…ดร.สุกิจ แจกแจงว่า สะพานกลับรถเวอร์ชั่นใหม่มาจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 2 ที่มุกดาหารข้ามแม่น้ำโขง รวมทั้งเทคนิคจากหลายประเทศที่ได้ศึกษาโดยดึงจุดเด่นนำมาต่อยอด ในเชิงวิศวกรรมสะพานกลับรถแบบเคเบิล ถือว่าเป็นสะพานเคเบิลแบบแนวโค้ง (Horizontal curve cable-stayed bridges) เป็นการออกแบบที่รวมข้อได้เปรียบของการใช้ระบบเคเบิลมาช่วยรับน้ำหนักสะพานและรถยนต์ พร้อมพิจารณาให้ตอบโจทย์ด้านความสวยงาม ความโดดเด่นและเพิ่ม value ของพื้นที่ ตัวอย่างสะพานเคเบิลที่อยู่ในแนวโค้งราบได้แก่ สะพาน Terenez Bridge ประเทศฝรั่งเศส

สะพาน Katsushika Harp Bridge ญี่ปุ่น สะพาน Ponte Del Mare อิตาลี สะพาน Santa Maria De Benquerencia Bridge สเปน ส่วนใหญ่ให้รถยนต์และคนเดินข้ามฝั่ง หากพิจารณาด้านฟังก์ชั่นการใช้กลับรถ นับได้ว่าเป็นสะพานกลับรถแบบโค้งในแนวราบออกแบบรับแรงโดยระบบเคเบิลแห่งแรกในโลกได้

สุดยอดฝีมือ วิศวกรไทยเจ๋งไม่แพ้ชาติใดในโลก ….สวัสดีปีใหม่ 2025 ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการใช้ชีวิต ว้าวแล้วว้าวอีกด้วยความสดใส และปลอดภัยทุกการเดินทาง

ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์

1 มกราคม 2568

***ห้ามคัดลอกเนื้อหาในบทความ/ภาพไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต