เมื่อวันที่ 6 ม.ค. พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ เพ็ชรประกอบ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.แสมดำ รับแจ้งเหตุยิงตัวตายภายในบ้านหลังหนึ่ง ซอยบางกระดี่ 1 แยก 16-1-2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ปรีชา หนูสลุง ผกก.สน.แสมดำ พ.ต.ท.บุญเสริม ศรีสุข รอง ผกก.ป.สน.แสมดำ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้น เปิดเป็นบริษัทประกอบกิจการเกี่ยวกับผลิตยางอะไหล่อุตสาหกรรม เนื้อที่รวมประมาณ 10 คูหา ต่อเติมด้านหลังเป็นโรงงาน เหตุเกิดบนระเบียงชั้น 3 พบศพนายเกรียงไกร (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ลูกชายเจ้าของบริษัท สภาพนั่งหงายหลังจมกองเลือด สวมเสื้อแจ๊กเกตสีดำแขนยาว นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ มีแผลถูกอาวุธปืนยิงขมับซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ฉีกขาด นั่งเสียชีวิตในสระว่ายน้ำยางเป่าลม ใกล้กัน พบอาวุธปืนลูกซองยาว ขนาด 12 (5 นัด) ยี่ห้อ Derya สีดำ มีทะเบียน ตกอยู่ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนแม่บ้านผู้พบศพคนแรก กล่าวว่า ปกติทุกเช้าประมาณ 07.00-08.00 น. ตนต้องขึ้นไปทำความสะอาดบ้านหลังที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลาประมาณ 07.15 น. ตนก็ขึ้นไปทำความสะอาดตามปกติ และก็เห็นผู้ตายเดินไม่สวมเสื้อไป-มา อยู่บนบ้าน
ตอนนั้น ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะท่าทีผู้ตายก็ปกติดี ไม่ได้มีท่าทีเครียดอะไร จากนั้นตนได้พูดกับผู้ตายประมาณว่า “เดี๋ยวจะกลับมาทำความสะอาดให้นะ ขอลงไปใส่บาตรก่อน เพราะวันนี้เป็นวันพระ” ก่อนที่ตนจะลงมาเตรียมของใส่บาตร หลังจากที่ตนใส่บาตรเสร็จ ก็ได้ขึ้นมาทำความสะอาดข้างบนอีกครั้ง กระทั่งสังเกตเห็นเลือดกระจัดกระจายอยู่บริเวณระเบียงชั้น 3 ก็เลยจะเข้าไปเก็บ เพราะคิดว่านกตีกันตาย จึงพบร่างของนายเกรียงไกร นั่งเสียชีวิตอยู่ในสระว่ายน้ำยางเป่าลม ด้วยความตกใจตนจึงรีบตะโกนร้องขอความช่วยเหลือกับพนักงานในบริษัททันที
จากการสอบถามพนักงานในบริษัทให้ข้อมูลว่า ช่วงเวลาประมาณ 07.30 น. ได้ยินเสียงคล้ายอาวุธปืนดังขึ้นหนึ่งนัด แต่ก็ไม่ได้มีใครเอะใจอะไร เพราะนึกว่ามีคนจุดประทัดกัน ในส่วนนิสัยใจคอของผู้ตายนั้น เท่าที่ตนรู้จักผู้ตายเป็นเด็กโลกส่วนตัวสูง นิสัยดี พูดจาน่ารัก และที่ผ่านมาไม่เคยเห็นผู้ตายมีท่าทีเครียดอะไร
เมื่อถามว่า ผู้ตายป่วยเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่นั้น ส่วนตัวตนก็ไม่ทราบข้อมูล เพราะที่ผ่านมาผู้ตายก็ดูใช้ชีวิตตามปกติ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยอมรับว่า รู้สึกตกใจไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งส่วนตัวตนก็ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดว่า เกิดจากเรื่องอะไร มีความเครียดอะไรหรือไม่ ในส่วนเรื่องอาวุธนั้นส่วนตัวตนไม่ทราบว่า ผู้ตายเอาปืนมาจากไหน เพราะปกติห้องนอนของผู้ตายจะถูกล็อกไว้ไม่ให้เข้าไปทำความสะอาด
ด้านพี่ชายคนตาย เปิดเผยว่า ปกติน้องชายพักอาศัยอยู่ที่ตึกนี้เพียงคนเดียว ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็เพิ่งมาทราบข่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า น้องชายได้มีการใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต โดยในเบื้องต้นทางครอบครัวไม่ได้มีใครติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เพราะน้องชายเคยมีท่าทีที่จะทำร้ายตัวเองมาหลายครั้ง ที่ผ่านมาตนและครอบครัวก็เคยเตือน ในส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้น ส่วนตัวตนเชื่อว่าน่าจะเกิดจากปัญหาสะสม ความน้อยอกน้อยใจกับครอบครัวที่มีมาตั้งแต่เด็ก ส่วนเรื่องอาวุธปืนนั้น แม่เคยบอกว่า น้องชายมีอาวุธปืนลูกซอง เนื่องจากเคยเห็นน้องชายลืมเอาปืนดังกล่าววางไว้ที่รถ แต่ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นปืนปลอม หรือปืนของเล่น
จากเหตุการณ์นี้ตนยอมรับว่า สภาพจิตใจครอบครัวค่อนข้างย่ำแย่ เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้ โดยเฉพาะสภาพจิตใจของแม่ ที่ตอนนี้ค่อนข้างจะทำใจยาก พอสูญเสียลูกชายไปถึง 2 คน ลูกชายคนโตเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ส่วนผู้เสียชีวิตในวันนี้นั้นเป็นลูกชายคนที่ 3 จากลูกทั้งหมด 4 คน
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน มอบร่างผู้ตายส่งไปชันสูตรที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช ก่อนประสานให้ญาติรับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป.