จากกรณีที่ ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเล่าถึงกรณีข่าวดัง ข้อสอบเอนทรานซ์รั่วเมื่อปี 2547 ตรงกับผลการสอบของลูกสาวนายกฯ ในขณะนั้น ที่สูงขึ้นอย่างมาก หลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดตัวทางการเมือง มารับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย นั้น

เมื่อวันที่ 30 ต.ค. นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคไทยสร้างไทย ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวโดยระบุว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณแพรทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง แสดงให้เห็นว่าสังคมไทยยังขับเคลื่อนด้วยอารมณ์และพร้อมที่จะทำลายอีกฝ่ายที่ตัวเองคิดว่าอยู่ตรงข้ามโดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงและเหตุผล

สิ่งที่ผมค่อนข้างเศร้าและหดหู่ คือการที่อาจารย์จากคณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ ท่านหนึ่งซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองกับนายกทักษิณ ได้ออกมาวิจารณ์การสอบเข้าจุฬาฯ ของอุ๊งอิ๊งโดยคาดเดาเอาเองอ้างว่าอุ๊งอิ๊งมีพัฒนาการมากจนเหลือเชื่อ อคติบังตาจนลืมไปว่าอุ๊งอิ๊งเรียนจบได้รับพระราชทานปริญญาบัตร ทุกวิชาที่เรียนจะต้องผ่านการสอบจากอาจารย์ที่สอนมากกว่า 40 วิชาเรียน การที่อุ๊งอิ๊งเรียนจบก็แสดงว่ามีความรู้จึงผ่านการทดสอบจากคณาจารย์ผู้สอนมากกว่า 40 ท่าน ยกเว้นอาจารย์ท่านนี้จะบอกว่าอาจารย์ที่สอนคณะรัฐศาสตร์ตั้งแต่ปี 1 ถึงปี 4 รวมหัวกันโกงช่วยอุ๊งอิ๊งจนเรียนจบภายใน 3 ปีครึ่ง

อุ๊งอิ๊งเป็นคนไทยมีคุณสมบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ ไม่เคยเล่นการเมืองมาก่อนและไม่เคยทำความเสียหายให้บ้านเมือง ดังนั้น การที่พรรคเพื่อไทยแต่งตั้งใหัอุ๊งอิ๊งเป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ผมเห็นว่าเป็นการเปิดตัวเข้ามาเล่นการเมืองตามระบบ ส่วนอุ๊งอิ๊งจะประสบความสำเร็จทางการเมืองหรือไม่ก็เป็นดุลพินิจของประชาชนที่จะพิจารณา เพราะเป็นการเลือกตั้งไม่ใช่การยึดอำนาจที่จะใช้อาวุธบังคับประชาชนได้

ผมไม่มีส่วนได้เสียกับพรรคเพื่อไทย เพราะลาออกมาอยู่พรรคไทยสร้างไทยกับคุณหญิงสุดารัตน์นานแล้ว พรรคไทยสร้างไทยกับนายกฯ ทักษิณหรือพรรคเพื่อไทย จึงไม่มีความเกี่ยวข้องกันโดยสิ้นเชิง แต่ที่ผมต้องออกมาพูดเพราะอยากทุกฝ่ายหยุดสร้างความเกลียดชังอันจะนำมาซึ่งความแตกแยกของสังคม ให้เกียรติและเคารพการตัดสินใจของประชาชนดีกว่าครับ