สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 8 ม.ค. เกี่ยวกับความคืบหน้า หลังสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ตรวจพบการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.1 แมกนิจูด มีศูนย์กลางอยู่เทือกเขาหิมาลัย ที่อำเภอติ้งรื่อ ในเมืองรื่อคาเจ๋อ ของเขตปกครองตนเองทิเบตของจีน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และแรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ไกล ถึงอาคารในกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของเนปาล และรัฐพิหารในอินเดีย ซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปหลายร้อยกิโลเมตร
สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (ซีซีทีวี) รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นอย่างน้อย 126 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 188 คน ขณะที่บ้านเรือนอีกมากกว่า 3,600 แห่ง ได้รับความเสียหาย
ด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กำชับหน่วยงานทุกแห่งที่เกี่ยวข้อง เร่งค้นหาผู้สูญหาย และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่ตอนนี้มีอุปสรรคสำคัญ ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด
อย่างไรก็ตาม ศูนย์เครือข่ายแผ่นดินไหวแห่งชาติจีน (ซีอีเอ็นซี) วัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวครั้งนี้ได้น้อยกว่ายูเอสจีเอส คือ 6.8 แมกนิจูด และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดของจีน นับตั้งแต่แผ่นดินไหวรุนแรง 6.5 แมกนิจูด ที่มณฑลยูนนาน เมื่อปี 2557 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 600 ราย
ขณะเดียวกัน ภูมิภาคแห่งนี้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด ถือว่ารุนแรงที่สุดเท่าที่เคยบันทึก ภายในรัศมี 200 กิโลเมตร ในช่วง 5 ปีล่าสุด หนึ่งในนั้นคือแผ่นดินไหวรุนแรงที่มณฑลกานซู เมื่อเดือน ธ.ค. 2566 มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 148 ราย.
เครดิตภาพ : XINHUA