เป็นอีกหนึ่งนักแสดงมากความสามารถไม่แพ้ใครเลยทีเดียว สำหรับ “ชาย ชาตโยดม” นักแสดงเจ้าบทบาท ที่ ควงภรรยาคนสวย “วิกกี้ สุนิสา” และลูกชายทั้งสองคน “น้องคริสเท่น-น้องไทเลอร์” มาเปิดวีรกรรมความแสบขั้นสุด ทำงานหนักมากจนไม่มีเวลาเลี้ยงลูก จนต้องปล่อยโฮ ลั่นปิดอู่ถาวรทำหมันเรียบร้อยแล้ว ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow โดยชาย เผยว่า
“ถ่ายพร้อมกัน 8 เรื่อง เวลาโทรฯ เข้ามาว่างมั้ย ได้ครับ มาเรื่อยๆ ก็บอกว่าได้ครับ เดี๋ยวเคลียร์ได้ (หัวเราะ) เราก็หาคนมาช่วยเรื่องการดูคิวให้ จะได้ไม่กระทบงานของใคร ตอนรับก็รับแบบบ้าคลั่งไป เนี่ยแหละเราจะทำให้ลูก เราทำงานมีแรงไหว ทำตอนนี้ก็รีบรับไปก่อน แต่พอผ่านไปสักระยะหนึ่ง อยู่เป็นหลักเดือน หลักปีสองปีที่วนอยู่อย่างนี้ เช้าตื่นตีห้า ลูกยังไม่ตื่น กลับมาห้าทุ่มเที่ยงคืน ลูกหลับไปแล้ว มันไม่เจอ มันก็ค่อยๆ บั่นทอนความรู้สึกชายไปเรื่อยๆ มันค่อยๆ สะสม จนวันหนึ่งมันไม่ไหวแล้ว เล่นละครก็เล่นไม่ได้แล้ว มีผลกับงานหนักมาก ฉากง่ายๆ ก็ทำไม่ได้ ใจไม่อยู่แล้ว ใจไม่พร้อมแล้ว ได้เท่าที่ได้จริงๆ เหมือนขอพักแป๊บหนึ่ง เขาบอกโอเค ถ้ามีเวลาค่อยกลับมาถ่ายใหม่ฉากนี้ ชายรู้ว่าชายพีคสุดๆ แล้ว ไม่ไหวแล้ว ตอนนั้นอยู่กองพี่จ๋า เขาคงรู้กันอยู่แล้วว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตชาย คนเยียวยาและมีผลกับชายมากที่สุดคืออาจิ๋ม อยู่ดีๆ อาจิ๋มก็เดินเข้ามาในกอง แค่เห็นอาจิ๋มเดินเข้ามา ชายก็ถล่มทลายเละเทะ ไปกอดทิ้งตัวหมดทุกอย่าง”

นอกจากไม่มีเวลาให้ลูก ยังไม่มีเวลาให้ตัวเอง พีคสุดน้ำหนักน่าจะขึ้นไป 110 กิโล มันอายนะ คนถามว่าจริงเหรอ ไม่เคยเห็นชายอ้วน ชายอายนะ ไม่กล้าให้คนเห็นแบบนี้ ทุกครั้งที่ออกไปทำงานข้างนอก พยายามพรางตัวเอง แต่มันไม่ใช่แค่เรื่องรูปลักษณ์ มันเป็นเรื่องสุขภาพ นอนกิน แล้วลูกวิ่งมาชวนเล่นด้วยกัน แต่เราไม่ไหว ง่วง ขอนอนก่อน พอพูดเสร็จออกจากปากไปทันที เห็นหน้าลูก เห็นความผิดหวังของเขา เราทำอะไรกับชีวิตอยู่ ความตั้งใจเราอยากมีครอบครัว อยากมีลูก เป็นสิ่งที่ฝันมาตลอด อยากเล่นกับลูก สร้างความทรงจำกับลูกว่าได้เล่นกับพ่อ สนิทกับพ่อ แล้วเราทำอะไร เรามานอนอยู่อย่างนี้ มันแย่มาก มันไม่ได้แล้ว ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่ควรเป็นช่วงชีวิตที่รอร่วงโรย เราควรได้เอ็นจอยกับดอกผลที่เราทำงานมาสิ พอเราดูแลตัวเองก็เดินถอดเสื้อตลอด (หัวเราะ) เราตัดสินใจว่าเราจะเป็นคนมีคุณภาพ เป็นพ่อที่แข็งแรง ดูแลลูกได้
วิกกี้ เผยว่า “ก็เข้าใจเขา พยายามคุยกับลูกด้วย เพราะเขาบอกว่าเขากลัวลูกจะไม่เข้าใจว่าทำไมหายตลอด มีบางครั้งที่คริสเท่นก็ถามว่าทำไมพ่อไปอีกแล้ว เราไม่แน่ใจว่าเขาเข้าใจมากน้อยแค่ไหน แต่เราบอกไปก่อนว่าพ่อทำทุกอย่างเพื่อเรานะ พ่อไม่ได้อยากออกไปตลอด แต่พ่อทำเพื่อให้เราสบาย คริสเท่นได้ไปโรงเรียน ได้ของที่อยากได้ ได้ทานสิ่งที่อยากได้ อธิบายเหมือนผู้ใหญ่ ทุกอย่างต้องใช้เงิน พ่อก็ดูแลเรา พอได้ไปทำอะไรที่เราชอบ มันมาจากการที่พ่อดูแลเรา พูดบ่อยๆ ก่อนนอนก็เล่าให้เขาฟัง เพราะบางทีเขารู้สึกว่าทำไมโทรฯ ไปแล้วพ่อไม่รับ เราก็บอกว่าพ่อทำงานแบบนี้ เวลาเข้าฉาก พ่อเอาโทรศัพท์ไปไม่ได้นะ อธิบายให้เขาเห็นภาพกองถ่าย เขาเคยไปกองถ่าย แต่อาจไม่รู้วิธีการทำงานว่าทำไมพ่อรับโทรศัพท์ไม่ได้”
“กว่าจะผ่านตรงนั้นมาได้ ไม่ง่ายสำหรับพี่ชาย มีอยู่ครั้งหนึ่ง ครอบครัวของเรามารวมกันหมด แล้วพี่ชายคนโตมาจากต่างประเทศ พี่ชายเป็นคนเดียวที่ไม่ได้มา พี่เอก พี่ชายคนโต นานๆ กลับมาจากอเมริกา เราก็แพลนไปเที่ยวทะเล เขาโทรฯ มาแล้วทุกคนอยู่หมด มันคือครอบครัวพี่ชาย มีแต่เขาคนเดียวที่ไม่อยู่ตรงนั้น สงสารมาก”

ชาย เผยต่อว่า “ถามว่ามีลูกเพิ่มมั้ย ไม่เหลือแล้วครับ (หัวเราะ) ทำหมันไปแล้วเรียบร้อย ก็ใช้เวลาตัดสินใจสักพักหนึ่งเหมือนกัน เรื่องของเรื่องไม่รู้ตัวว่าโดนป้อนข้อมูลอยู่ แต่ก็คิดเองว่าทำเองแล้วกัน เป็นของขวัญให้เขา ทั้งหมดทั้งมวลเป็นการป้อนข้อมูล จนเราคล้อยตามเคลิ้ม โอเคไปทำแล้วกัน เหมือนละเมอไป (หัวเราะ) เมื่อก่อนตั้งเป้าอยากมีลูก 4 คน แต่ด้วยความที่อายุเยอะด้วย ตอนมีคริสเท่นก็อายุ 40 แล้ว มานั่งคิดดู โหย อีกไกลมากเลย เราอยากอยู่กับเขาให้เต็มที่ก็พอก่อนดีกว่า เลยเอาแค่ 2 พอ”
วิกกี้ เสริมว่า “เขาตัดสินใจเอง แต่เราค่อยๆ หาข้อมูลใส่ไป เป็นของขวัญแอนิเวอร์ซารี่ ครบรอบแต่งงาน”



ขอบคุณภาพประกอบจาก:คุยแซ่บShow