เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านโนนทอง หมู่ 3 ต.ทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ว่า ถูกแก๊งมิจฉาชีพเข้าไปฉกเอาเงินของคนชราภายในบ้าน แล้วหนีไปอย่างลอยนวล จึงอยากให้ผู้สื่อข่าวนำเสนอข่าว เพื่อเตือนให้ผู้สูงอายุระมัดระวังตัวจากภัยสังคมรูปแบบใหม่ เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า ผู้ที่ถูกคนร้ายขโมยเงินไปคือ นายอ่อนสา ชนุรัมย์ อายุ 85 ปี อยู่เลขที่ 184 หมู่ 3 บ้านโนนทอง ต.ทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ โดยนายอ่อนสา ระบายความทุกข์ให้ฟังว่า เมื่อวานนี้ (วันที่ 30 ต.ค) เวลาประมาณ 12.00 น. มีผู้หญิงอายุประมาณ 40-50 ปี ขี่รถ จยย.สีแดง มาจอดที่หน้าบ้าน แล้วเดินมาหาตน ช่วงนั้นกำลังนั่งเก้าอี้อยู่หน้าบ้านคนเดียว โดยหญิงคนดังกล่าว เข้ามาถามว่า ลูกเขยอยู่บ้านหรือไม่ จึงตอบไปว่าไม่อยู่ ไปทำงานที่กรุงเทพฯ หลังจากนั้นหญิงคนดังกล่าว ได้ชวนนั่งพูดคุยเหมือนมีความสนิทสนมกับลูกเขยเป็นอย่างดี

จากนั้นประมาณ 10 นาที หญิงคนดังกล่าวขอเข้าห้องน้ำภายในบ้าน ตนจึงอนุญาตให้ไปเข้า เพราะคิดว่าเป็นคนกันเอง ระหว่างนั้นได้จับสุนัขที่เลี้ยงไว้ให้ด้วย เนื่องจากกลัวสุนัขจะทำร้าย ประมาณ 5 นาที หญิงคนดังกล่าวได้ออกมาแล้วบอกว่า จะไปธุระต่อ พร้อมหยิบนมส่งให้ 1 แพ็ก บอกเก็บเอาไว้กิน กระทั่งผ่านไปประมาณ 30 นาที ตนจึงเดินเข้าบ้าน แต่เห็นมีความผิดปกติ เพราะกางเกงที่ตนถอด กองไว้กลางบ้านไปอยู่อีกมุมหนึ่ง จึงล้วงกระเป๋าดูพบว่าเงินสด 1,600 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ลูกสาวส่งมาให้ และเป็นเงินคนชรา ได้หายไปจึงแจ้งให้กับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทราบดังกล่าว

ด้าน นายเก้า ซูมรัมย์ อายุ 52 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน กล่าวว่า จำได้ว่าเห็นผู้หญิงคนนี้ขี่รถจยย.มาคนเดียว ไม่เคยเห็น
หน้ามาก่อน แต่แปลกใจว่าทำไมรู้ว่าตาอยู่บ้านคนเดียว และยังรู้ว่า ที่หมู่บ้านมีงานกฐินอยู่ที่วัด เชื่อว่าน่าจะเป็นมืออาชีพ

ขณะที่ นางทอง พาสนุก อายุ 49 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 กล่าวว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) โดยเฉพาะช่วงฤดูเก็บเกี่ยวข้าว ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ จะไปที่นากันเกือบทั้งหมด ส่วนคนชราจะให้อยู่บ้านตามลำพังและแก๊งนี้ก็จะฉวยโอกาสในช่วงนี้ออกมาอาละวาดด้วยการเข้ามาตีสนิททำเหมือนรู้จักคนภายในบ้าน หลังจากนั้นก็จะใช้อุบายเพื่อให้เข้าถึงภายในบ้านหรือจุดที่ซ่อนทรัพย์สินแล้วขโมยทรัพย์สินมีค่าไป จึงอยากจะขอแจ้งเตือนประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะชาวนา เพราะจะมีแก๊งนี้ออกอาละวาดเป็นประจำทุกปี ส่วนนายอ่อนสา ได้พาไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.สุพจน์ แรกไธสง รอง สว. (สอบสวน) สภ.หนองกี่ แล้ว ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างติดตามจับกุมคนร้ายอย่างเร่งด่วน