แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (บอร์ด กสทช.) ในวันที่ 14 ม.ค. สำนักงาน กสทช. จะนำเสนอรายงานการจัดทำแผนการจัดสรรคลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลของประเทศไทยระยะ 5 ปี (2567–2571) เพื่อเสนอบอร์ด กสทช.มีมติเห็นชอบอนุมัติ  เพื่อรองรับในเดือน ส.ค. ปี 68 จนถึงปี 2570 ที่ใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ที่ได้จัดสรรให้เอกชนจะสิ้นสุดลง คือ คลื่นความถี่ย่าน 850 เมกะเฮิรตซ์ 1500 เมกะเฮิรตซ์ 2100 เมกะเฮิรตซ์ และ 2300 เมกะเฮิรตซ์

“เมื่อเสนอบอร์ด กสทช.เพื่อขออนุมัติ แล้วจากนั้นจะได้นำร่างการจัดการประมูล (ไอเอ็ม) ไปรับฟังความเห็นสาธารณะ เบื้องต้นคาดว่าไทม์ไลน์การประมูลที่จะเกิดขึ้นน่าจะปลายไตรมาส 1/68 หรือในช่วงกลางเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งการนำคลื่นความถี่ดังกล่าวมาจัดประมูลก็เพื่อให้สามารถนำมาจัดสรรใหม่ให้สอดคล้องกับปริมาณความต้องการใช้คลื่นความถี่ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และให้เอกชนได้เตรียมความพร้อมในการทำแผนธุรกิจรองรับ”

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ บอร์ด กสทช. ด้านกิจการโทรคมนาคม ระบุว่า จากการหารือกับเอกชนมีความต้องการใช้งานในคลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ และ 2300 เมกะเฮิรตซ์ ต่อเนื่อง และเห็นด้วยที่จะนำมาประมูลก่อน เพราะได้ลงทุนอุปกรณ์ต่างๆ ไปแล้วได้ใช้งานมาเพียง 3-5 ปีเท่านั้น  และเมื่อดูงบประมาณการเงินของเอกชนน่าจะมีความพร้อมด้านการเงินในปี 69 จากภาระการจ่ายค่าใบอนุญาตจะลดลง และการลงทุนในคลื่นดังกล่าวจะไม่มาก ไม่ต้องลงทุนใหม่ทั้งหมด โดยเบื้องต้นส่วนตัวมองว่าควรวางระยะเวลาใบอนุญาตไว้ประมาณ 10-15 ปี ส่วนราคาตั้งต้นประมูลคงไม่สูงเหมือนครั้งก่อนๆ เพราะไม่เช่นนั้นเอกชนต้องตั้งค่าบริการไว้สูง จะเป็นภาระกับประชาชนที่ใช้งานจ่ายค่าบริการแพง.