สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงแอดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ว่าประธานาธิบดีฮัสซัน ชีค โมฮามุด ผู้นำโซมาเลีย และนายกรัฐมนตรีอาบีย์ อาเหม็ด อาลี ผู้นำเอธิโอเปีย ตกลงที่จะฟื้นฟูและเสริมสร้างความร่วมมือระดับทวิภาคี ผ่านการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง

ย้อนกลับไปเมื่อเดือน เม.ย. ปีที่แล้ว เอกอัครราชทูตเอธิโอเปียประจำกรุงโมกาดิชูถูกเนรเทศ และทั้งสองประเทศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกันนับจากนั้น ก่อนที่ความขัดแย้งนี้คลี่คลาย ด้วยข้อตกลงสันติภาพ เมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีตุรกีเป็นคนกลางและลงนามโดยผู้นำทั้งสองประเทศ

ระหว่างการเยือนกรุงแอดดิสอาบาบาของผู้นำโซมาเลีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พวกเขาย้ำถึงความมุ่งมั่นต่อข้อตกลง และจิตวิญญาณแห่งมิตรภาพและความสามัคคีในแถลงการณ์ร่วม รวมถึงการหารือถึงการขยายการค้าและความร่วมมือด้านความมั่นคง เพื่อต่อต้าน “กลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรง”

อย่างไรก็ตาม แม้ข้อตกลงเมื่อเดือนที่แล้วจะทำให้เอธิโอเปียสามารถเข้าถึงทางออกสู่ทะเลได้ในที่สุด แต่ยังไม่ชัดเจนว่า ข้อตกลงนี้จะมีรูปแบบอย่างไร ขณะที่ชะตากรรมของข้อตกลงระหว่างเอธิโอเปียกับโซมาลีแลนด์ยังคงไม่ชัดเจนเช่นกัน

อนึ่ง เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนการเยือนครั้งนี้ ความตึงเครียดยังคงดำเนินต่อไปในกรุงไคโรของอียิปต์ เมื่อนายอาเหม็ด โมอาลิม ฟิกี รมว.การต่างประเทศโซมาเลีย พบหารือกับนายบัดร์ อับเดลัตตี รมว.การต่างประเทศของอียิปต์ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเอริเทรีย โดยทั้งสามคนแสดงจุดยืนร่วมกัน ในการต่อต้านความทะเยอทะยานของเอธิโอเปีย และอ้างถึงคู่แข่งอย่างลับ ๆ

“ทะเลแดงและความมั่นคงขึ้นอยู่กับเจตนารมณ์ของประเทศต่าง ๆ บนชายฝั่งเท่านั้น และเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง เมื่อประเทศใด ๆ ที่ไม่ได้อยู่ติดกับทะเลแดงจะมีสถานะ ไม่ว่าจะเป็นทหาร กองทัพเรือ หรืออื่น ๆ” อับเดลัตตี กล่าว.

เครดิตภาพ : AFP