เมื่อวันที่ 13 ม.ค. นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา รับหนังสือร้องเรียนจากตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาปลาหมอสีคางดำระบาดในพื้นที่ 19 จังหวัด นำโดยนายนิวัติ ธัญญะชาติ เพื่อขอให้พิจารณาดำเนินการศึกษา เสนอแนวทาง และเร่งรัดการแก้ปัญหาการดำเนินธุรกิจของบริษัท ที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิมนุษยชนในกรณีการระบาดของปลาหมอสีคางคำ ซึ่งสร้างผลกระทบต่อนักปกป้องสิทธิมนุษยชน เกษตรกร ชุมชน ประชาชน และส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ และความมั่นคงทางอาหารโดยรวมอย่างร้ายแรง

โดยหนังสือระบุว่า ในปี 2567 รัฐบาลได้ประกาศให้การระบาดของปลาหมอสีคางดำเป็นวาระแห่งชาติ มีการอนุมัติกรอบงบประมาณ 450 ล้านบาท และมีโครงการจับปลาหมอสีคางดำโดยรับซื้อเพื่อทำปุ๋ยชีวภาพ และปล่อยปลานักล่า เป็นต้น แต่กลับไม่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ขณะนี้ปลาหมอสีคางดำ ได้ขยายการระบาดเพิ่มขึ้น สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างหนัก นอกจากนี้จนถึงปัจจุบัน กรมประมงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน เพื่อหาผู้กระทำความผิดที่ต้องรับผิดชอบต่อการระบาดของปลาหมอสีคางดำ และยังมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่เผยแพร่ปัญหา และเสนอทางออกเกี่ยวกับการระบาดของปลาหมอสีคางดำ ซึ่งอาจเข้าข่ายการฟ้องร้องปิดปาก (SLAPP)  

เครือข่ายองค์กรประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปลาหมอสีคางดำ เห็นว่ากรณีดังกล่าว เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสิทธิมนุษยชนในหลายมิติ เช่น สิทธิของเกษตรกร สิทธิ ในทรัพยากร สิทธิของผู้บริโภค อธิปไตยและความมั่นคงทางอาหาร การฟ้องร้องปิดปากนักปกป้องสิทธิ มนุษยชน การคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อ เป็นต้น จึงขอให้ท่านได้โปรดพิจารณาดำเนินการ เพื่อให้มีการศึกษา เสนอแนวทางทั้งระยะสั้นและระยาว รวมทั้งเร่งรัดให้มีการแก้ปัญหาการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะในกรณีการระบาดของปลาหมอคางดำ และกรณีอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

นางอังคณา กล่าวว่า ในส่วนกรรมาธิการฯ จะนัดผู้ร้องและจะเชิญหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องอาทิกรมประมง อธิบดีกรมประมง และกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลเรื่องของธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน เครือข่ายเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปลาหมอสีคางดำมา เข้ามาให้ข้อมูลวันที่ 21 ม.ค. นี้ เวลา 13.00 น. ซึ่งหลังจากรับข้อมูลในเบื้องต้นแล้ว จะลงไปดูในพื้นที่เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาต่อไป 

นางอังคณา กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในกรณีการระบาดของปลาหมอสีคางดำ เมื่อครั้งที่ตนดำรงตำแหน่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเมื่อปี พ.ศ. 2560  ตัวแทนของเกษตรกรและชาวบ้านก็ได้เข้าไปร้องเรียนในกรณีนี้ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนได้ตรวจสอบและออกรายงานไปเมื่อปี พ.ศ. 2561 และระบุชัดว่าการนำเข้าปลาหมอสีคางดำจนเกิดการแพร่ระบาดในแหล่งน้ำธรรมชาติเป็นการทำลายระบบชีวภาพและส่งผลต่อเศรษฐกิจของเกษตรกรที่ทำประมง กรมประมงก็มีหน้าที่ที่จะต้องติดตามแล้วก็แก้ไข แต่ปัจจุบันปัญหามันแพร่ออกไปจนมีหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบ ก็ต้องมาดูกันว่ากรมประมงจะรับผิดชอบยังไงต่อไป และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะแก้ปัญหาอย่างไรให้เป็นรูปธรรม

นางอังคณา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในส่วนกรณีการฟ้องนายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ นักปกป้องสิทธิมนุษยชน เลขาธิการไบโอไทย ที่ได้ใช้ข้อมูลจากรายงานของกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เรื่องข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปลาหมอสีคางดำ โดยส่วนตัว ตนมองว่าการกระทำของนายวิฑูรย์ เป็นการพูดโดยสุจริตเพื่อผลประโยชน์สาธารณะ.