เมื่อวันที่ 15 ม.ค. พ.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ ยาจาติ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองระนอง รับแจ้งเหตุ หญิงสาวกระโดดจากรถกระบะ เสียชีวิต บริเวณถนนสายเลียบคลองหาดส้มแป้น หลังที่ว่าการอำเภอเมืองระนอง จ.ระนอง จึงประสานตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองระนอง แพทย์นิติเวช รพ.ระนอง และหน่วยพิสูจน์หลักฐานจังหวัดระนอง เข้าร่วมตรวจสอบเหตุ ในที่เกิดเหตุ พบร่าง น.ส.ธันยธร (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ชาว จ.สกลนคร นอนเสียชีวิต สภาพใบหน้ามีบาดแผล เลือดท่วมหน้า ศีรษะแตก และแผลถลอกตามร่างกาย แขนและขาทั้ง 2 ข้างไม่สวมรองเท้า ห่างไปไม่ไกลพบรถกระบะอีซูซุ สีขาว สี่ประตู ทะเบียน กท 8813 ชุมพร จอดอยู่กลางถนน

จากการสอบสวนแฟนหนุ่มที่เป็นตำรวจยศ ส.ต.ท. ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.ระนอง ให้การอ้างว่า ระหว่างกำลังพาแฟนสาวไปทานข้าวต้ม หลังจากกลับจากสถานบันเทิง ปรากฏว่า มีปากเสียงกันเรื่องหึงหวง ฝ่ายแฟนสาวเป็นคนเปิดประตูกระโดดลงไปช่วงที่รถกำลังวิ่ง ทำให้ศีรษะกระแทกพื้นก่อนจะกลิ้งหลายตลบนอนแน่นิ่งไป ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบรอยเลือดบนไหล่ทาง พบว่ายาวกว่า 6 เมตร และที่บันไดข้างรถกระบะ พบรอยเท้า คาดว่าหญิงสาวผู้ตาย เปิดประตูรถออกมาและยืนเหยียบ ก่อนทิ้งตัวตกจากรถ แพทย์เวรตรวจชันสูตรเบื้องต้นคาดว่ากระดูกต้นคอหักจากศีรษะกระแทกพื้นหลังเสียหลักกระโดดลงจากรถ

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุได้มีเพื่อนสาวคนสนิทกับฝ่ายผู้ตาย รีบเดินทางมาดูร่างของ น.ส.ธันยธร ถึงกับร่ำไห้เสียใจ ให้การกับตำรวจโดยอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้โทรศัพท์มาหาตน พร้อมส่งพิกัดมาเป็นระยะ เพราะอยากให้เพื่อนมาช่วย มีการเปิดโฟนโทรศัพท์ให้ตนได้ยินว่า ก่อนผู้ตายเสียชีวิตได้เกิดเหตุอะไรขึ้นภายในรถ โดยผู้ตายอยากจะกลับไปที่พักแฟลตตำรวจ เพื่อเก็บเสื้อผ้าออกจากห้องและขอแยกทางกัน ก่อนได้ยินเสียงดังตุบ! แล้วสายโทรศัพท์ได้ขาดหายไป จนมาพบร่างเพื่อนที่เสียชีวิตแล้ว

โดยคดีนี้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองระนอง และชุดสืบสวน สภ.เมืองระนอง จะเร่งตรวจเก็บประจักษ์พยานหลักฐานทั้งหมด รวมทั้งให้หน่วยพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบร่องรอยที่เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยจะตรวจทั้งภายในและภายนอกรถกระบะคันดังกล่าว เนื่องจากบุคคลที่อยู่ด้วยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ระนอง เพื่อมิให้เกิดข้อครหา หรือข้อสงสัยต่าง ๆ ว่าเป็นเหตุอุบัติเหตุตั้งใจกระโดดออกจากรถยนต์จริง หรือเหตุฆาตกรรมอำพราง พร้อมประสานกู้ชีพมูลนิธิระนองสงเคราะห์ นำร่างผู้เสียชีวิตส่งฝ่ายนิติเวช รพ.ระนอง เพื่อทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป.
