กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ กับการตามล่าลายเซ็นเจ้าหน้าที่บนพาสปอร์ตท่องเที่ยวของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งเป็นลวดลายสุดครีเอทของแต่ละอุทยานฯ นั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสดังกล่าวยังมีความนิยมอย่างต่อเนื่องของเหล่านักล่าลายเซ็นรูปสัตว์ต่างๆ ของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ซึ่งแต่ละที่ก็มีความพิเศษน่ารักเฉพาะตัว โดยที่ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า สำหรับใครที่มาท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตอนนี้ต้องห้ามพลาด เพราะขณะนี้ ทางอุทยานฯ ได้มีจัดเตรียมเจ้าหน้าที่อุทยานฯ แก่งกระจาน ไว้ สำหรับเซ็นลายเซ็นสุดพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวที่สะสมพาสปอร์ตท่องเที่ยวแล้ว

โดยที่อุทยานฯแก่งกระจาน ได้มอบหมายให้ นายนาวิน จุลกะรัตน์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จัดเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย นางสาวพนิดา โภชน์พลัด นางสาวชุติมา ปานเกิด และนางสาวน้ำเพชร พงษ์สุวรรณ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ แก่งกระจาน ประจำจุดศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน คอยเซ็นลายเซ็นสุดพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวที่สะสมพาสปอร์ตท่องเที่ยว โดยลายเซ็นนั้น ต้องบอกว่าเด็ดกว่าใคร เพราะมีถึงสัตว์ 3 ชนิด ประกอบด้วย ช้าง เม่น และดาราแห่งอุทยานฯ แก่งกระจาน นั่นก็คือ นกกะลิงเขียดหางหนาม ที่เป็นนกหายากมาก เป็นตัวที่นักดูนกทั่วโลกตามหา อยากเห็นสักครั้งในชีวิต โดยผู้ที่ต้องการลายเซ็นสุดพิเศษนี้ มาติดต่อได้ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทุกวันทำการ จะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก

นายมงคล เปิดเผยด้วยว่า สำหรับอุทยานฯ แก่งกระจาน ช่วงเวลานี้ มีอากาศเย็นสบาย บริเวณที่ทำการอุทยานฯ อุณหภูมิเฉลี่ย 20-23 องศาฯ ที่บ้านกร่างแคมป์ อุณหภูมิเฉลี่ย 16-20 องศาฯ และที่บริเวณพะเนินทุ่ง จุดชมทะเลหมอกใกล้กรุงเทพฯ อุณหภูมิเฉลี่ย 13-16 องศาฯ มีจุดถ่ายภาพ ลานแคมป์ปิ้ง และสัตว์ป่าให้ชมมากมาย โดยเฉพาะที่ บ้านกร่างแคมป์ และบนพะเนินทุ่ง ที่ธรรมชาติยังอุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวอาจได้พบกับ เสือดาว เสือดำ นกเงือกชนิดต่างๆ ช้าง สมเสร็จ ค่างแว่นถิ่นใต้ ค่างดำ เลียงผา และหมาไม้ เป็นต้น ส่วนบริเวณที่ทำการอุทยานฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยแท้ แต่ก็มีจุดถ่ายภาพที่สวยงามมากมาย


ทั้งนี้ อยากขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวที่พบเห็นสัตว์ป่า ให้รักษาระยะที่ปลอดภัย ไม่ส่งเสียงดังรบกวน และควรถ่ายภาพจากในรถ โดยขอความร่วมมืออย่าลงจากรถ ที่สำคัญในเขตอุทยานฯ ห้ามขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยของทั้งนักท่องเที่ยวและสัตว์ป่าด้วย.

