“คนไทย” ห่วงเปิด “กาสิโนถูกกฎหมาย” กระทบกลุ่มเสี่ยง “เด็ก-เยาวชน-ผู้สูงวัย”

ตามที่มีกระแสข่าวว่าประเทศไทย จะมีการเปิดกาสิโนแบบถูกกฎหมาย ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งการเปิดกาสิโนแบบถูกกฎหมายในประเทศไทย ก็เพื่อต้องการที่จะให้ควบคุมในเรื่องของการพนันอย่างเป็นรูปธรรมนั้น

ย้อนไปดูในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 141 ตอนที่ 63 ก หน้า 1-2 ลงวันที่ 10 ก.ย.2567 ออกประกาศกฎกระทรวงฉบับที่ 46 พ.ศ.2567 ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 ระบุว่า การพนันต่อไปนี้ให้เล่นได้ภายในเวลากำหนด ลงนามโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีผลวันที่ 11 ต.ค.2567

สำหรับการพนันต่อไปนี้ให้เล่นได้ภายในกำหนดเวลา มีทั้งหมด 23 ประเภท มีดังนี้

1.การเล่นต่าง ๆ ซึ่งให้สัตว์ต่อสู้หรือแข่งกัน ซึ่งไม่มีการเล่นโตแตเซเตอร์ สวีป หรือบุ๊กเมกิง รวมอยู่ด้วย เวลา 07.00-19.00 น.
1.1 แข่งวัวลาน 18.00-06.00 น. ของวันรุ่งขึ้น

2.วิ่งวัวคน 07.00-19.00 น.
3.แข่งเรือพุ่ง แข่งเรือล้อ 07.00-19.00 น.
4.ข้องอ้อย 07.00-19.00 น.
5.ชกมวย มวยปล้ำ 12.00-24.00 น.
6.ชี้รูป 07.00-24.00 น.
7.โยนห่วง 07.00-24.00 น.
8.โยนสตางค์หรือวัตถุใด ๆ ลงในภาชนะต่าง ๆ 07.00-24.00 น.
9.ตกเบ็ด 07.00-24.00 น.
10.จับสลากโดยวิธีใด ๆ 07.00-24.00 น.
11.ยิงเป้า 07.00-24.00 น.
12.ปาหน้าคน ปาสัตว์ หรือสิ่งใด ๆ 07.00-24.00 น.
13.เต๋าข้ามคาน 07.00-24.00 น.
14.หมากแกว 07.00-24.00 น.
15.หมากหัวแดง 07.00-24.00 น.
16.บิงโก 07.00-24.00 น.
17.สะบ้าทอย 07.00-24.00 น.
18.สะบ้าชุด 07.00-24.00 น.
19.การเล่นต่าง ๆ ซึ่งให้สัตว์ต่อสู้หรือแข่งกันซึ่งมีการพนันเล่นโตแตไลเซเตอร์ รวมอยู่ด้วย 12.00-20.00 น.
20.โตแตไลเซเตอร์ สำหรับการเล่นอย่างใดอย่างหนึ่ง 12.00-20.00 น.
21.บุ๊กเมกิง สำหรับการเล่นอย่างใดอย่างหนึ่ง 12.00-20.00 น.
22.ไพ่นกกระจอก ไพ่แต้มต่อ ไพ่ต่าง ๆ วันอาทิตย์ 12.00-24.00 น. วันอื่น 18.00-24.00 น.
23.ดวด วันอาทิตย์ 12.00-24.00 น. วันอื่น 18.00-24.00 น.

สำหรับลักษณะข้อจำกัดและเงื่อนไข มีดังนี้ 1.ใบอนุญาตฉบับหนึ่งให้ใช้ได้สำหรับ 1 เที่ยว, 2.การพนันนี้ให้เล่นตามวัน เวลา และ ณ สถานที่ที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต, 3.ห้ามมีให้ผู้รับอนุญาตโอนใบอนุญาตให้ผู้อื่นไปใช้, 4.ห้ามใช้ยาหรือสารกระตุ้น หรือทำร้ายร่างกายหรือจิตใจของสัตว์จนอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้, 5.ห้ามมิให้เอาสัตว์ชนิดอื่นนอกจากที่ได้รับอนุญาตมาแข่งขัน, 6.สัตว์ที่จะเข้าแข่งขันเที่ยวหนึ่ง ๆ ต้องมีจำนวไม่เกิน 1 คู่, 7.ห้ามมิให้ผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเข้าเล่นด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์การเล่นการพนันในประเทศไทย โดยอ้างอิงจากที่ รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ได้นำรายงานสถานการณ์การพนันในสังคมไทย ปี 2566 จากการสำรวจและประมวลผลข้อมูลโดยศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ เก็บข้อมูลประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป ใน 24 จังหวัด ระหว่างวันที่ 15 พ.ย.-27 ธ.ค.2566 รวม 7,131 ตัวอย่าง

ในรายงานพบว่า คนไทยมากกว่าครึ่งไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มการพนันถูกกฎหมาย ทั้งพนันทายผลฟุตบอล บ่อนกาสิโน และพนันออนไลน์ เพราะจะมีผลให้คนเล่นพนันเพิ่มขึ้น และเมื่อเปรียบเทียบข้อมูลการสำรวจย้อนหลัง พบว่า ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา คนไทยมีทัศนคติต่อการเปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายค่อนข้างคงที่ คือเห็นด้วยประมาณ 30% ไม่เห็นด้วยประมาณ 51-54% ที่เหลือตอบว่าไม่แน่ใจ

ในปี 2566 คนไทย 99.3% มีบุคคลรอบตัวเล่นการพนัน โดย 21% ของกลุ่มเด็ก และ 26% ของกลุ่มเยาวชน ระบุว่า พบเห็นบุคคลรอบตัวเล่นการพนันมีผลทำให้รู้สึกอยากเล่นพนันในระดับมากถึงมากที่สุด

ปี 2566 มีคนไทยมากถึง 63.1% หรือประมาณ 34.51 ล้านคน เล่นการพนัน เมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา พบว่า ทั้งเพศชายเพศหญิง ทุกกลุ่มอายุ ทุกภูมิภาค เล่นการพนันมากขึ้น โดยภาคอีสาน มีสัดส่วนและจำนวนคนเล่นพนันมากที่สุด ขณะที่ ภาคเหนือ มีอัตราการขยายตัวของคนเล่นพนันเพิ่มขึ้นมากที่สุด แม้กลุ่มอายุที่เล่นพนันมากที่สุดเป็นคนในช่วงวัยทำงานก็ตาม

แต่สิ่งที่น่ากังวลกว่าก็คือการขยายตัวของการเล่นพนันในประชากรกลุ่มเสี่ยง ทั้งเด็ก เยาวชนและผู้สูงวัย

“ที่ผ่านมา ผลสำรวจพบเด็ก อายุ 15-18 ปี เล่นการพนันหลักแสนคน แต่ปี 2566 เป็นครั้งแรกที่พบเด็กเล่นการพนันทะลุหลักล้าน คือมีมากถึง 1.06 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 2.31 แสนคนเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2564 และพบเยาวชน อายุ 19-25 ปี เล่นการพนัน 3.92 ล้านคน ผู้สูงวัย อายุ 60 ปีขึ้นไป เล่นการพนัน 4.47 ล้านคน สองกลุ่มหลังมีจำนวนคนเล่นพนันสูงกว่าปี 2564 กลุ่มละประมาณ 4 แสนกว่าคน” ดร.นวลน้อย ระบุ

สำหรับประเภทการพนันยอดนิยมของคนไทย 3 อันดับแรกยังคงเหมือนเดิม ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล หวยใต้ดิน และไพ่พนัน แต่การพนันที่มาแรงแทรกขึ้นมาเป็นอันดับ 4 คือ สลอตแมชชีน/ตู้พนัน ดันการพนันทายผลฟุตบอลไปอยู่ในอันดับ 5 เมื่อพิจารณาแยกตามกลุ่มอายุ ในปี 2566 ทุกกลุ่มอายุนิยมเล่นพนันสลากกินแบ่งรัฐบาลและหวยใต้ดินเป็นสองอันดับแรกเหมือน ๆ กัน ยกเว้นกลุ่มเด็ก การพนันยอดนิยมอันดับแรกของกลุ่มเด็ก คือ สลอตแมชชีน/ตู้พนัน

ส่วนวงเงินหมุนเวียนของการพนัน เน้นว่าเป็นการนับซ้ำ ไม่ใช่เงินได้-เสีย เช่นสลากกินแบ่งรัฐบาล ซื้อ 80 บาท วงเงินหมุนเวียน 80 บาท 60% เป็นเงินรางวัล ส่วนที่เสียพนัน 32 บาท จะนำส่งคลัง 18.40 บาท ที่เหลือเป็นค่าบริหารและการตลาด ดังนั้นพนันทายผลฟุตบอลที่มีรอบพนันถี่ ๆ จึงมีวงเงินหมุนเวียนของการพนันสูงที่สุด โดยในปี 2566 มีวงเงินพนันอยู่ที่ 2.7 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ที่นำเสนอมานั้นเป็นสถานการณ์สรุปของปี 2566 เท่านั้น ยังไม่ได้รวมของปี 2567 ที่ผ่านมาแต่อย่างใด โดยแนวโน้มที่จะมีคนไทยในทุกกลุ่มอายุเล่นการพนันทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมายมีเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน