เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 17 ม.ค. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แม่และครอบครัว พาลูกสาววัย 13 ปี เดินทางมาจาก จ.น่าน ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ลูกสาวถูกกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคน อายุระหว่าง 14-18 ปี ล่อลวงไปที่โฮมสเตย์แห่งหนึ่งใน อ.นาน้อย จ.น่าน พยายามจะมอมเหล้ารุมโทรม แต่ลูกสาวขัดขืนวิ่งหนี จนถูกหินบาดเท้า ก่อนถูกฉุดลากตัวเข้าไปในห้องพักโฮมสเตย์ ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นสิบกว่าคน จะช่วยกันจับขึงพืดผลัดกันรุมโทรม เหตุเกิดคืนวันที่ 26 ธ.ค. 67
นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี มารดา เปิดเผยว่า คืนเกิดเหตุ ตนสงสัยว่าทำไมลูกสาวไม่กลับบ้าน ทั้งที่ขออนุญาตไปบ้านเพื่อนเพื่อซ้อมเต้นจะไปโชว์ในงานปีใหม่ จนเช้าแม่จึงไปตามที่บ้านเพื่อนลูกสาว ก่อนจะรับตัวน้องกลับมาบ้าน ซึ่งลูกสาวมีอาการเซื่องซึมไม่พูดจา เหมือนจะไม่มีแรงเดินและเดินล้ม ก็สงสัยว่าลูกเป็นอะไร แต่ลูกอ้างว่าเจ็บขาเพราะหกล้ม วันที่ 31 ธ.ค. 67 หลังผ่านไป 5 วัน ลูกสาวยังผิดปกติเดินไม่ไหว เซื่องซึมลงทุกวัน แม่จึงเค้นถาม จนลูกยอมบอกว่า ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมโทรมที่รีสอร์ท

ลูกสาวบอกว่า หลังซ้อมเต้นกับเพื่อนผู้หญิงรวม 4 คน เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งได้ชวนไปหาแฟน ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุที่รีสอร์ท เมื่อไปถึงพบกลุ่มชายวัยรุ่นสิบกว่าคนที่ไม่รู้จัก นั่งก่อกองไฟล้อมวงกินเหล้าอยู่ข้างโฮมสเตย์ จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นชายได้พยายามจะมอมเหล้า แต่ลูกสาวปฏิเสธ ก็ถูกคะยั้นคะยอกึ่งบังคับแล้วดื่มไปนิดเดียว พอจะลุกหนี พวกผู้ชายก็เข้ามากอดและล็อกคอฉุดลากเข้าไปในห้องพักโฮมสเตย์ทั้งสิบกว่าคน ลูกสาวดิ้นสู้วิ่งหนีออกมาได้ ก็ถูกจับเข้าไปในห้องที่ 2 อีกครั้ง โดยวัยรุ่นชายสิบกว่าคน ช่วยกันจับแขนจับขาขึงพืดให้ลูกนอนบนเตียงไม่ให้ดิ้น แล้วผลัดกันลงมือข่มขืนทีละคนจนสำเร็จความใคร่
โดยที่ลูกสาวจำหน้ากลุ่มที่ก่อเหตุได้เกือบทั้งหมดสิบกว่าคน แต่รู้ชื่อเพียง 5 คน และมีพยาน คือ เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่เคาะประตูเพื่อช่วยเหลือออกมาจากห้อง แต่กลุ่มที่ก่อเหตุไม่ยอมเปิดประตู และมีวัยรุ่นชายอีกหลายคนที่ยังอยู่ในวงเหล้าคอยดูต้นทาง เพื่อนผู้หญิงจึงรอจนลูกสาวถูกปล่อยจึงรับกลับบ้าน แม่พาลูกสาวเข้าแจ้งความแล้วที่ สภ.นาน้อย วันที่ 31 ธ.ค. 67 แต่เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะกลุ่มวัยรุ่นชายที่ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นลูกหลานผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีอิทธิพลในพื้นที่ จึงมาร้องขอความเป็นธรรมจากมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีเอาผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมาย
ปู่ของเด็กหญิงผู้เสียหาย กล่าวว่า ลูกสะใภ้เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะลูกชายตนเองไม่อยู่ ตนจึงต้องดูแลทั้งลูกสะใภ้และหลาน ซึ่งตนสงสัยว่าทำไมโฮมสเตย์ดังกล่าว จึงปล่อยให้เด็กสามารถไปเปิดห้องพักได้ถึง 2 ห้อง มั่วสุมกันและก่อเหตุแบบนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนที่ร่วมกันก่อเหตุทั้งหมด มาดำเนินคดีให้หมด เพื่อเป็นตัวอย่างไม่ให้ใครกล้าทำแบบนี้อีก

หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.ถาวร เต็มสวัสดิ์ ผกก.สภ.นาน้อย เพื่อเร่งดำเนินคดีจับกุมผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมาย และสอบสหวิชาชีพเยาวชนชาย 5 คน ที่ร่วมก่อเหตุ ซึ่งผู้เสียหายได้ให้ชื่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว เพื่อจะได้ขยายผลไปถึงผู้ร่วมก่อเหตุรายอื่นๆ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยวันจันทร์ที่ 20 ม.ค. นี้ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาแม่ และปู่ พร้อมทั้งลูกสาว ไปพบ พ.ต.อ.ถาวร เต็มสวัสดิ์ ผกก.สภ.นาน้อย เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ฝากเตือนภัยพ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่าน ไม่ควรปล่อยปละละเลย หรือปล่อยให้ลูกไปที่ไหนนานๆ เพราะไว้ใจใครไม่ได้ ส่วนพวกเป็นภัยต่อสังคม ก็ต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด.