เมื่อวันที่ 19 ม.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Erna Nadia ได้โพสต์เล่าเรื่องราวซึ่งเป็นเคสที่น่าสนใจและกลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ของประเทศมาเลเซีย โดยเจ้าของเพจได้เล่าเคสนักเรียนที่เรียนอยู่ชั้นป.2 สูญเสียการมองเห็นโดยสิ้นเชิง หลังจากกินอาหารแปรรูปมากเกินไป โดยเฉพาะนักเก็ตและไส้กรอก

เจ้าของโพสต์ระบุว่า เด็กไม่ได้ตาบอดจากการกินอาหารแค่ครั้งหรือสองครั้ง แต่เป็นผลมาจากการทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยนักโภชนาการที่ตรวจเช็กเด็กเผยว่าเด็กมีการกินอาหารที่น่าตกใจ โดยเธอได้รับแต่อาหารแปรรูป เช่น นักเก็ต ไส้กรอก คุกกี้ ตั้งแต่เกิดจนถึงช่วงหลังๆ นี้ เธอเรียนแค่ชั้นป.2 เท่านั้น ซึ่งเธอถามคุณครูว่าทำไมถึงมองไม่เห็น ก่อนที่จะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล

หลังจากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าเด็กหญิงสูญเสียการมองเห็นเนื่องจากขาดวิตามินเอ ซึ่งการสูญเสียการมองเห็นทั้งหมดนี้น่าเสียดายว่าไม่สามารถกลับคืนได้

ขณะที่ทางเออร์นา แพทย์เจ้าของโพสต์ระบุว่า เรื่องนี้ถูกแชร์โดยเพื่อนของเธอ และเธอยังได้แชร์อาการขาดวิตามินเอที่สามารถสังเกตได้ เช่น ตาแห้งและการมองเห็นไม่ชัด

นอกจากนี้เธอยังระบุว่า โพสต์ของเธอไม่ได้มีเจตนาวิพากษ์วิจารณ์พ่อแม่ แต่เป็นการเตือนทุกคน รวมถึงตัวเธอเองเกี่ยวกับความสำคัญของการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

“อาหารเสริมไม่ช่วยมากหรอก สมัยก่อนพ่อแม่และปู่ย่าตายายเลี้ยงเราด้วยอาหารที่เหมาะสมใช่ไหม ส่วนเด็กหญิงและพ่อแม่ของเธอ ไม่มีอะไรที่สามารถทำได้ นอกจากการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ อาหารที่มีสีสันมาก ยิ่งไม่ดีต่อสุขภาพ”

แพทย์หญิงคนดังกล่าวยังระบุว่า เธอเข้าใจดีว่าบางครั้งพ่อแม่อาจยุ่งมากจนไม่มีเวลาเข้าครัว แต่เธอแนะนำให้ทุกคนพยายามทำอาหารที่เหมาะสม แม้จะไม่ใช่อาหารที่ดีต่อสุขภาพก็ตาม เช่น “ข้าวจานหนึ่งกับไข่ และน้ำซอสถั่วเหลืองก็เพียงพอแล้ว”

“อาหารแปรรูปนั้นไม่ดีต่อสุขภาพและไม่มีสารอาหาร ยิ่งเก็บไว้นาน สีสันยิ่งมาก ก็ยิ่งไม่ดีต่อสุขภาพ บางครั้งอาหารเหล่านั้นอาจเป็นของโปรด แต่หากกินมากเกินไปก็อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่เราคาดไม่ถึง และจะเสียใจในภายหลัง”