เฉิน เว่ยหนง ศัลยแพทย์และคุณพ่อลูกสามจากคลินิกศัลยกรรมเสริมความงามแห่งหนึ่งในเมืองไทเปแห่งไต้หวัน ตกเป็นเป้าความสนใจของชาวเน็ตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่เขาแชร์คลิปวิดีโออันเหลือเชื่อบนหน้าเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของเขาเอง เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมา

นายแพทย์หนุ่มตัดสินใจผ่าตัดทำหมันให้ตัวเองเพื่อความสบายใจของภรรยา และเนื่องจากเขาไม่ต้องการให้เกิดความผิดพลาดใด ๆ ระหว่างการผ่าตัด เขาจึงถ่ายคลิปวิดีโอ บันทึกขั้นตอนการผ่าตัดไว้ทั้งหมดเพื่อเป็นข้อมูลในการศึกษา จากนั้นก็นำไปโพสต์ลงโซเชียลมีเดียของเขา

หลังจากที่บรรยายกระบวนการผ่าตัด 11 ขั้นตอน เฉินก็ได้รับยาสลบเฉพาะที่ จากนั้นก็เริ่มลงมือทำหมันให้ตัวเอง แต่เนื่องจากการผ่าตัดตัวเองไม่ใช่เรื่องปกติ ขั้นตอนการผ่าตัดที่ปกติใช้เวลาประมาณ 15 นาทีจึงกินเวลานานเป็นชั่วโมง แต่ก็ประสบความสำเร็จด้วยดี

“มันเป็นความรู้สึกที่แปลกดีที่ได้สัมผัสและเย็บท่อปัสสาวะของตัวเอง” เฉิน เว่ยหนงบอกผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียของเขา “ในกรณีของการผ่าตัดท่อนำไข่ของผู้หญิงจะทำได้ค่อนข้างยาก แต่ในกรณีของผู้ชาย การผ่าตัดจะทำได้ง่ายกว่า เพราะสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยการค้นหาท่อนำอสุจิซึ่งอยู่ภายนอกแล้วผูกท่อไว้”

คลิปวิดีโอของเฉินกลายเป็นไวรัลในไต้หวัน มียอดชมมากกว่า 4 ล้านครั้งในเวลาเพียงไม่กี่วัน แต่แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะชื่นชมความกล้าหาญ ทักษะ และความรักที่เขามีต่อภรรยา ก็ยังมีบางคนแสดงความกังวลเรื่องความปลอดภัยของขั้นตอนการผ่าตัดด้วยตนเอง 

เฉินชี้แจงว่าเขาเป็นศัลยแพทย์ที่มีใบประกอบโรคศิลปะ และเขารับความเสี่ยงในการผ่าตัดทำหมันด้วยตัวเอง ซึ่งทำในช่วงนอกเวลาทำการภายใต้การดูแลของแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ อย่างไรก็ตาม เขาเตือนทุกคนว่าอย่าทำตามอย่างเขา แต่ให้ไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแทน

แพทย์จากไต้หวันรายนี้กล่าวว่า เขารู้สึกเจ็บปวดและไม่สบายเล็กน้อยในคืนที่ทำการผ่าตัด แต่เขาก็รู้สึกสบายดีเมื่อตื่นนอนในเช้าวันรุ่งขึ้น ตอนนี้เขาได้รับการขนานนามว่าเป็น “ชายผู้กล้าหาญที่สุดในไต้หวัน” ไปแล้วจากการผ่าตัดทำหมันชายด้วยตัวเอง

อย่างไรก็ตาม กรมอนามัยของไทเปก็ต้องเข้ามาสอบสวนกรณีดังกล่าว ซึ่งหลังจากการสอบสวนเบื้องต้น กรมอนามัยก็ยืนยันว่า นายแพทย์เฉิน ซึ่งเป็นแพทย์ที่มีคุณสมบัติครบและได้รับอนุญาตให้ลงมือผ่าตัดคนไข้ จึงยังไม่พบปัญหาทางกฎหมายใดๆ เกี่ยวกับการทำหมันชายด้วยตัวเองของเขา

ที่มา : odditycentral.com

เครดิตภาพ : Aliaksandra from Pixabay, Facebook / ET.Lemons