เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจส่วนกลาง “เดลินิวส์” ได้รับข้อมูลเอกสารร้องทุกข์จากผู้ปกครองพร้อมบันทึกแจ้งความ ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก ดำเนินคดี “นาย น.” ครูโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศและขืนใจเด็กนักเรียนหญิง วัย 13 ปี เหตุเกิดตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.ค. 65-มิ.ย. 67 โดยผู้ปกครองเด็ก ให้ข้อมูลว่า ช่วงแรกๆ ลูกสาวถูกครูฉวยโอกาสกระทำอนาจารจับหน้าอกและอวัยวะเพศภายในห้องศิลปะ ลงมือช่วงเย็น (เวลา 16.30 น.) ก่อนเลิกเรียนหลายครั้งด้วยกัน กระทั่งเดือน มิ.ย. 67 นาย น. ไม่ได้อนาจาร แต่ถึงขั้นลงมือบังคับขืนใจเด็กจนสำเร็จความใคร่ เมื่อพ่อทราบเรื่องจึงไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพิษณุโลก เมื่อเดือน พ.ย. 67 ที่ผ่านมา

ต่อมาตำรวจคุมตัวครู มาสอบสวนแจ้งเอาผิดหลายข้อหา พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร, พาเด็กอายุยังไม่เกิน 15ปี ไปเพื่อการอนาจาร, อนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งเป็นศิษย์ที่อยู่ในความดูแล โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ฯลฯ ด้าน พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว หลังตำรวจรับเรื่องทางพนักงานสอบสวน ได้ประสานสหวิชาชีพมาร่วมทำการซักถาม และดำเนินการตามขั้นตอน ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกและเชิญตัวครูคนดังกล่าวมาแจ้งข้อกล่าวหา เบื้องต้นทางครูให้การปฏิเสธ ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาที่จะให้การในชั้นสอบสวน ก่อนนำตัวไปฝากขัง ทั้งนี้ได้เร่งรัดทางพนักงานสอบสวนทำสำนวนส่งฟ้องอัยการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ตัวแทนครูและผู้ปกครอง (ขอสงวนชื่อ) ให้ข้อมูลว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องมาหลายปี และมีเด็กนักเรียนหลายเคยตกเป็นเหยื่อ แต่เมื่อมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบ มักพบว่าเรื่องจะเงียบหายไป ดังนั้นจึงตัดสินใจนำเอกสารหลักฐานมาร้องเดลินิวส์ เพื่อช่วยนำเสนอข่าวข้อเท็จจริงให้สังคมรับทราบ เพราะกลัวเรื่องจะเงียบหายไปเหมือนก่อนหน้านี้ ที่สำคัญอยากให้ผู้บริหารระดับกระทรวงศึกษาธิการ ส่งคนจากส่วนกลางลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากไม่มั่นใจการตรวจสอบของพื้นที่ หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลโรงเรียน เพราะเลือกที่จะเงียบไป ไม่ดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับกลุ่มนักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อแต่อย่างใด

ทั้งนี้ จากเอกสารที่กลุ่มผู้ปกครองได้รวบรวมเอาไว้เกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของครูในโรงเรียนดังกล่าว ยังมี “นาย ป.” ครูอีกคนเคยถูกกลุ่มนักเรียนชั้น ม.4 จำนวน 8 คน รวมตัวกันร้องเรียนต่อผู้บริหาร หลังถูกนาย ป. พฤติกรรมส่อไปในทางคุกคามทางเพศ ทั้งใช้วาจาสายตา พร้อมคุกคามลูบหัวจับไหล่ ฯลฯ ทางโรงเรียนตั้งสอบสวนวินัย แต่ชี้เป็นความผิดไม่ร้ายแรง สุดท้ายเรื่องเงียบ ทำให้ครูจำนวนหนึ่ง และนักเรียน ผู้ปกครอง มองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม พยายามสอบถามความคืบหน้าในการเอาผิดเพิ่มเติมแต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ จึงตัดสินใจส่งเรื่องร้องทุกข์มาทางเดลินิวส์ เพื่อทางผู้เกี่ยวข้องในกระทรวงศึกษาธิการ จะได้รับทราบปัญหา.