เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ราคาพืชผักที่ตามท้องตลาดในขณะนี้ มีราคาค่อนข้างสูง แพงกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยสาเหตุหลักมาจากพื้นที่การเกษตรส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วม จนไม่สามารถปลูกผักได้ รวมทั้งจะพบว่าในช่วงปลายฝนต้นหนาวของทุกๆ ปี ที่ผ่านมา ราคาพืชผักก็จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ไม่แพงกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ จึงทำให้เกษตรกรหลายรายที่มีอาชีพปลูกผักขาย ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ต.บ้านโตก อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ มีรายได้สูงกว่าที่ผ่านมา หลังจากที่ประสบกับปัญหาขาดทุนต่อเนื่องกันมาหลายปี โดยเฉพาะในช่วงโควิดระบาด แทบจะไม่มีคนเข้ามารับซื้อผักเลย
นางเติม ชมชื่น อายุ 66 ปี ชาวสวนในพื้นที่ กล่าวว่า ตนมีพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ ได้ปลูกพืชผักหลากหลายชนิดหมุนเวียนกันไปทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักชี ผักกาด ถั่วฝักยาว พริก เป็นต้น ที่ผ่านมาก็จะขายได้กำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง และตอนนี้ได้เปลี่ยนจากการใช้สารเคมีมาปลูกพืชแบบใช้สารชีวภาพแทน ทั้งนี้เพื่อสุขภาพของตนเอง รวมทั้งผู้ที่จะนำไปบริโภคด้วย ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อพืชผักถึงที่ รวมทั้งมีลูกค้าประจำคือ ร้านหมูจุ่ม ที่จะต้องใช้ผักบุ้งวันละ 10-15 กิโลกรัม
นางเติม กล่าวต่อว่า ระยะนี้ผักราคาค่อนข้างแพงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ตั้งแต่เกิดมาจากท้องแม่เพิ่งเคยเห็น โดยผักที่มีขายอยู่ในขณะนี้มีเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย พ่อค้าแม่ค้าก็จะมารับไปทั้งหมด ตนก็มีแรงงานเพียง 2-3 คน เท่านั้น ในแต่ละวันก็จะทำได้เต็มที่ 150-170 กิโลกรัม ถ้ามากกว่านี้ก็ไม่ไหว แต่ก็ทำเท่าที่จะสามารถทำได้ ในช่วงที่ราคาดีก็ถือว่าโชคดีที่มีรายได้เข้ามา หลังจากก่อนหน้านี้ไม่มีรายได้เลย มาวันนี้ก็พอจะได้ลืมตาอ้าปากได้บ้าง ถ้าหากท่านใดที่ต้องการจะรับประทานพืชผักที่ปลอดภัย และสนับสนุนเกษตรกร สามารถโทรฯ สอบถามก่อนได้ว่ามีพืชผักชนิดใดบ้าง เพราะตนปลูกหลากหลายชนิด หรือถ้าจะเดินทางมาซื้อที่สวนก็จะได้ในราคาที่ถูกลงไปอีก สอบถามเส้นทางได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-1474-9358
ด้านนางสายหยุด พึ่งเมือง อายุ 60 ปี ชาวสวนอีกราย กล่าวว่า ตนปลูกมะเขือขาวประมาณ 6 ไร่ แต่ไม่ค่อยได้ผลผลิต เนื่องจากว่ามีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตามปกติทุกๆ ปี ที่ผ่านมา ก็จะได้ผลผลิตประมาณ 1,000-2,000 กิโลกรัมต่อครั้ง แต่คราวนี้เก็บได้ครั้งละ 300-400 กิโลกรัมเท่านั้น แต่ก็ยังดีที่ราคาค่อนข้างสูงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยก่อนหน้านี้ถุงละ 10 กิโลกรัม จะขายได้ถุงละ 70-80 บาท แต่ในขณะนี้มีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่ในราคาถุงละ 320 บาท ก็ถือว่าโชคดีและดีใจเป็นอย่างมาก.