ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคของการแข่งขันอันดุเดือดของรถไฟฟ้านี้ ใครที่ไม่กล้าคิด ไม่กล้าทำก็จะถูกทิ้งห่างอย่างรวดเร็ว เพราะค่ายรถไฟฟ้าจากจีนแต่ละค่ายนั้นดูเหมือนจะกล้าได้ กล้าเสีย เรื่องของงานออกแบบกันทั้งสิ้น ในที่สุดฮอนด้า ก็พร้อมแล้วที่กระโดดเข้าสู่สมรภูมินี้ ด้วยรถแนวคิด 2 คันและว่าจะเป็นรถที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง

จุดแข็งของรถไฟฟ้าแห่งอนาคต 2 รุ่นนี้ก็คือ การเปิดตัวระบบปฏิบัติการ ASIMO OS (อะซิโม่ โอเอส) ซึ่งใช้ชื่อเดียวกับ หุ่นยนต์อะซิโม่ ที่ฮอนด้าพัฒนาองค์ความรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์มากว่า 2 ทศวรรษ โดยระบบอะซิโม่นี้ จะสามารถขับเคลื่อนรถยนต์ในแบบอัตโนมัติในระดับ เลเวล 3 คือ คนขับสามารถละสายตาจากถนน หรือหลับตาได้ และฮอนด้ากล่าวว่า นี่จะเป็นรถยนต์คันแรกที่สามารถขับแบบหลับตาได้ในทุกสถานการณ์ ทำให้ ผู้ขับขี่สามารถใช้สายตาไปกับกิจกรรมอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นการชมภาพยนตร์ หรือ ประชุมออนไลน์ ในขณะที่รถยนต์ขับเคลื่อนไปนั่นเอง
นอกเหนือไปจากระบบ อะซิโม่ โอเอส แล้ว ด้านงานออกแบบเองก็คือ ความบ้าบิ่นที่ฮอนด้าจะขอช่วงชิงความเป็นหนึ่งกลับมาอีกครั้ง เริ่มต้นด้วยรถที่มองไกลๆอาจจะเห็นเป็น ซุปเปอร์คาร์ แลมโบร์กีนี่ นั่นก็คือ รถซีดานทรงสปอร์ต “ฮอนด้า ซีโร่ ซาลูน” ที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะออกวางจำหน่ายในปี 2026 ที่กำลังจะมาถึง

ฮอนด้า ซีโร่ ซาลูน นั้นแทนที่จะเป็นรถทรง 2 กล่อง หรือ 3 กล่องแบบรถทั่วไป มันกลับมาในรูปทรงแบบ 1 กล่อง ที่รูปทรงนั้นสร้างขึ้นจากเส้นโค้งเส้นเดียว ลากจากหัวไปจรดท้าย ซึ่งจะว่าไปก็น่าจะคล้ายกับยุคหนึ่งที่ รถเอ็มพีวี ฮอนด้า ออดิสซี่ เลยทำไว้ แต่สำหรับ ฮอนด้า ซีโร่ ซาลูน นั้นมันสุดขั้วกว่ามาก ถือเป็นรถที่ “ต้อง” จับตามองที่สุดว่า ในที่สุด ในเวอร์ชั่นรถโปรดักชั่นนั้น พวกเขาจะสามารถทำได้ใกล้เคียงกับรถแนวคิดคันนี้เพียงไร เพราะหากทำได้จริง นี่จะเป็นหัวหอกที่สำคัญด้านการออกแบบของพวกเขาอย่างแน่นอน เพราะมันได้ยกมาตรฐานการออกแบบไปสู่อีกมิติอย่างแท้จริง ด้วยรูปลักษณ์ที่สะอาดตา คมเฉียบและพุ่งทะยาน แต่หนักแน่นในพร้อมๆกัน
แต่! สิ่งที่น่าทึ่งอีกประการของ ฮอนด้า ซีโร่ ซาลูน นั้นก็คือ มันเป็นการเอารถแนวคิดในอดีตกว่า 22 ปีมาแล้ว มาตีความใหม่ นั่นก็คือ รถแนวคิด “ฮอนด้า คิวามิ” (Honda Kiwami) ที่ในอดีตนั้นฮอนด้าเคยนำเสนอไว้ว่าจะวางตัวให้เป็นรถซีดานระดับพรีเมี่ยมที่ใช้เทคโนโลยี เซลเชื้อเพลิงไฮโดรเจน (Hydrogen Fuel Cell) เรียกได้ว่า ดูยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันคือรถทรงเดียวกัน และสื่อให้เห็นว่าพวกเขาอยากจะเล่นอะไรแรงๆมานานแล้ว แต่ผู้บริหารไม่กล้าเสี่ยง แต่วันนี้คงถึงเวลากล้าได้กล้าเสียกันเสียที!
คันต่อมาคือ “ฮอนด้า ซีโร่ เอสยูวี” ที่อาจจะไม่ได้มาพร้อมกับรูปทรงเหลี่ยมแหวกแนวเท่ากับตัวของ ฮอนด้า ซีโร่ ซาลูน แต่หากเทียบกับรูปลักษณ์ของรถยนต์ที่ฮอนด้า มีอยู่ในปัจจุบันก็คือว่า ฉีกแนวออกไปไกลมาก ส่วนด้านไวยากรณ์การออกแบบนั้น มันจะนุ่มนวลกว่าของรุ่นซาลูนที่เน้นเส้นสายคมกริบ โดยเส้นสายของรุ่น เอสยูวี นั้นจะดูนุ่มนวลเป็นมิตรมากกว่า โดยสัดส่วนนั้นเป็นรถทรง 2 กล่อง ที่ด้านหน้าของรถนั้นค่อนข้างจะยาว และห้องโดยสารจะดูเยื้องไปทางด้านหลัง เป็นสัดส่วนที่แปลกตา แต่ก็สวยลงตัว ดูได้ไม่รู้เบื่อ

จุดร่วมทางการออกแบบของรถทั้งสองรุ่น เห็นจะเป็น การใช้กระจกบังลมที่ลาดเอียงเป็นพิเศษ และด้านท้ายรถบริเวณเสา C (C-Pillar) ที่หนาใหญ่มากนั่นเอง ส่วนห้องโดยสารนั้น เน้นการใช้จอภาพยาวซ้าย จรดขวา โดยไวยากรณ์การออกแบบของห้องโดยสาร ของรถทั้งสองแบบ นั้นเน้นไปที่ความเรียบง่าย ให้ความรู้สึกเหมือนเครื่องเล่นเกมส์ เพลย์สเตชั่น
เรียกได้ว่า คันนึงนั้นรอกันยี่สิบกว่าปี กว่าจะได้เกิด แต่ที่แน่ๆทั้งสองคันนี้จะเป็นรถแห่งอนาคต ที่จะกู้ศักดิ์ศรีของรถยนต์ญี่ปุ่นในด้านการออกแบบได้อย่างแน่นอน.
โดย : ภัทรกิติ์ โกมลกิติ