เกาหลีเป็นสังคมเกษตรกรรมจวบจนถึงต้นศตวรรษที่ 20 สังคมในอดีตจึงมีวิถีชีวิตตามฤดูกาลขึ้นอยู่กับปฏิทินจันทรคติ เนื่องจากการดำรงชีวิตที่พึ่งพาการเกษตรเป็นหลักจึงมีการประกอบพิธีกรรมกึ่งศาสนาขึ้นเพื่ออธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อย่างการขอให้การเก็บเกี่ยวได้ผลดีและมีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ ซึ่งต่อมาก็ค่อย ๆ พัฒนากลายมาเป็นงานเทศกาลเฉลิมฉลองประจำชุมชน กิจกรรมต่าง ๆ จะขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละภูมิภาคและจันทรคติ
วันซอลลัลเหมือนวันสงกรานต์ปีใหม่ไทย ทุกคนจะกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว ห้างสรรพสินค้า และบริษัทต่าง ๆ ก็จะปิดเพื่อให้พนักงานได้กลับบ้านเกิดไปอยู่กับครอบครัว มีการทำพิธีเคารพบรรพบุรุษ งานเลี้ยงและมีกิจกรรมทำร่วมกัน กิจกรรมหนึ่งที่นิยมเล่นกันเพื่อความสนุกสนานก็คือ เล่นหมากเก็บ หรือที่นั่นเรียกว่า “กงกี” นั่นเอง ซึ่งก็คือหมากเก็บแบบที่เห็นในซีรีส์สควิดเกม ซีซั่น 2

กงกี เป็นหนึ่งในกิจกรรการละเล่นแบบเกาลหลีโบราณ ที่จะมีให้ได้ทดลองเล่นในงานสวัสดีปีใหม่เกาหลี 2025 ของศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี
แต่ก่อนที่จะได้เล่นกงกี งานจะเริ่มต้นด้วยพิธี “เซแบ” โดยนักเรียนไทยจะทำการคำนับขอบคุณผู้อาวุโส ที่มีทั้งทหารผ่านศึกเกาหลี สมาชิกสมาคมมิตรภาพประชาชนไทย-เกาหลี ซึ่งล้วนเป็นบุคคลผู้ส่งเสริมมิตรภาพระหว่างสองประเทศจนถึงทุกวันนี้
“เซแบ” โค้งคำนับ เป็นการแสดงความอวยพรต่อผู้ใหญ่ให้มีอายุยืนนาน เมื่อผู้ใหญ่ได้รับการโค้งคำนับจะมีประเพณีมอบเงินปีใหม่ที่เรียกกันว่า “เซแบดน” ให้กับผู้ที่คำนับ
จากนั้นผู้ร่วมงานจะได้ชิม “ต๊อกมันดูกุก” ซุปแป้งต๊อกใส่เกี๊ยวในน้ำซุปกระดูกวัว อาหารต้อนรับปีใหม่ที่เชื่อกันว่ากินแล้วชีวิตสดใส มั่งคั่ง และร่ำรวย โดยจะหั่นต็อกให้เป็นชิ้นบาง ๆ รูปร่างวงกลม เพื่อแทนดวงอาทิตย์ เป็นตัวแทนของการเริ่มต้นปี และแทนความสดใสและความสุข และ อีกความหมายหนึ่งก็คือ รูปร่างที่กลมเหมือนเหรียญ จะแทนความร่ำรวย และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพย์ แล้วชิมขนม “อินจอลมี”
สัมผัสวัฒนธรรมด้วยการละเล่นพื้นบ้านเกาหลี ทั้งกงกี การละเล่นนอลตวีกี ทูโฮ เชกี รวมถึงกิจกรรมตีแป้งต๊อก
นอกจากนี้ศูนย์ยังเตรียมกิจกรรมให้ร่วมเล่นอีกหลายรูปแบบ ผู้เข้าร่วมงานสามารถลองสวมชุดฮันบกและถ่ายภาพที่ตู้ถ่ายภาพ และร่วมประกวดภาพถ่ายชุดฮันบก ยังมี “ยุทจอม” หรือการทำนายดวงชะตาในปีใหม่ด้วยการโยนไม้ยุท ไปจนถึงการสุ่มจับรางวัลแจกของที่ระลึกเกาหลีอีกด้วย
ปิดท้ายงานด้วยการแสดงดนตรีพื้นบ้านเกาหลีจาก Jangdan Labs คณะดนตรีชื่อดังจากประเทศเกาหลี ซึ่งได้เตรียมเพลง “มุนกุท” การประกาศการเริ่มต้นปี เพลง “บีนารี” การอธิษฐานขอพรปีใหม่ และเพลง “พันกุท” อันแสนรื่นเริง มาแสดงให้ได้สัมผัสกับเสน่ห์ความครื้นเครงแบบเกาหลี
นางซอนจู ลี ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี กล่าวว่า วันปีใหม่เกาหลีเป็นเทศกาลที่ให้ความสำคัญกับครอบครัว โดยทั้งครอบครัวรวมถึงเพื่อนบ้านจะมารวมตัวสนุกสนานด้วยกัน และยังมีจุดเด่นที่การใช้สีขาวซึ่งเห็นได้จากซุปต๊อกกับซองเงินปีใหม่ มีความหมายสื่อถึงการเริ่มต้นใหม่ของทุกสรรพสิ่ง หวังว่าชาวไทยจะมาสัมผัสประสบการณ์วันปีใหม่เกาหลีอันมีเอกลักษณ์ที่ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีกันเยอะ ๆ นะคะ