เป็นการออกมาพูดแบบหมดเปลือกครั้งแรกของ “แน็ก ชาลี” ผ่านรายการแฉ กับทุกเรื่องราวดราม่าที่เพิ่งผ่านมาได้ไม่นาน ไม่ว่าจะเรื่องครอบครัว เรื่องอดีตผู้จัดการ หรือจะเรื่องของความรัก
ประเด็นครอบครัว “ผมก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้ แต่ผมก็เฉยๆ เพราะผมรู้เหตุผล ที่เขาคิดอะไรกันอยู่ในหัว ชีวิตผมมีข้อผิดพลาดอย่างเดียวที่ผมไม่น่าทำมันเลย คือ ผมเป็นคนชอบสร้างภาพให้คนใกล้ตัวผมน่ารัก ชอบทำให้ดูดี
ส่วนเรื่องเปียโน ผมไม่เคยทวง สิ่งที่ผมทำคือ ผมไปที่บ้าน แล้วเปียโนมันถูกเขียน ถูกตัดสายไฟ ผมเลยถามว่าให้น้าเอาไปซ่อมไหม แล้วพี่สาวบอกว่ามันรกบ้าน ผมเลยเอากลับมา

เรื่องปัญหาครอบครัว มันเคลียร์กันไม่ลงตัว มันมีปัญหาลึกๆ อีกมากมาย มันมีหลายเรื่อง ส่วนครอบครัว ผมก็ไม่ได้อยากมีพี่น้องตั้งแต่วันที่บอกว่าผมไม่ได้รักหลาน ผมเกาะกระแสหลาน ผมเกาะหลานกิน ผมเกาะหลานดัง ก็ไม่เอาแล้วครับ ผมทำงานหนักมากๆ มาคนเดียว ผมคิดหลายๆ อย่างคนเดียว มันอาจจะมีการช่วยกันบ้าง ผมก็แฟร์สุดๆ ของผมแล้ว ผมให้ทุกๆ อย่างเท่าที่ผมให้ได้แล้ว”
ส่วนเรื่องการแบ่งเปอร์เซ็นต์ผู้จัดการ นั้น แน็ก ชาลี บอกว่า เรื่องนี้ตนไม่เคยพูด และไม่เคยมีเรื่องการตกลงจะเปลี่ยนจากเปอร์เซ็นต์เป็นเงินเดือน ตนไม่เคยเปลี่ยนจากเปอร์เซ็นต์เป็นเงินเดือน และตนไม่เคยลดเงินเดือนพนักงาน
“เรื่องลึกๆ ผมต้องไปจัดการของตัวผมเองให้เป็นเรื่องคดี ต้องมีการฟ้องร้อง เพราะพูดตรงๆ บางทีผมก็หมั่นไส้เหมือนกัน ผมไม่ใช่คนดีมาก ผมทำอะไรแบบถูกต้องดีทุกอย่างแล้ว และก็ทำดีที่สุดแล้ว แต่ว่าผมต้องมาเจออะไรบ้างไม่รู้ ก็ให้มันเป็นเรื่องที่ผมต้องไปเคลียร์กัน”

สำหรับประเด็นดราม่ากับกามินที่ผ่านมา แน็ก ชาลี บอกว่า ตนก็พอจะทราบว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง เพราะตนเป็นคนที่ผ่านเรื่องราวและก็อยู่ในจุดที่อยู่มากกว่าคนอื่น มากกว่าเยอะ เพราะนี้คือจุดที่ตนสร้างขึ้นมา และก็ทำด้วยตัวคนเดียว ตนให้ของขวัญใคร ตนไม่เคยถ่ายรูป อย่างแฟนตน ตนให้เงินสดในวันเกิด ตนก็ไม่เคยออกมาป่าวประกาศอะไร กับกามินเขาได้เงินเสมอภาคแน่นอน เยอะแบบที่เขาพอใจแน่นอน เขาก็ได้ไปไม่น้อย ส่วนปัญหาที่แยกทางกัน มันน่าจะเป็นปัญหาหลายอย่าง ตนพยายามจะไม่พูดถึง เพราะใครที่ไม่ได้มีปัญหากับตนตอนนี้ ผมก็ไม่อยากมีปัญหากับเขา ตนรู้สึกว่า ให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาอยากทำ ให้เขาได้อยู่กับแฟนๆ ที่เขาอยากอยู่ เพราะตนทำทุกอย่างให้หมดแล้ว

นอกจากนี้ แน็ก ชาลี ยังบอกอีกว่า หลังจากนี้ตนจะไปทำเพลง และจะเคลียร์ปัญหาหลายๆ อย่างให้จบ ส่วนเรื่องฟ้อง ตนจะดูเอาตามที่สมควร ยังไม่ได้เริ่มฟ้องใคร ทั้งที่จริงมันก็มี FC บางคน พวกหัวหน้าแก๊ง ที่ตนรู้สึกว่า น่าหมั่นไส้ แต่ตนก็เฉยๆ อะไรที่ปล่อยผ่านได้ ตนก็จะปล่อยผ่าน แต่อะไรที่ตนเห็นว่ามันน่าเกลียดเกินไป ตนก็ต้องทำสิ่งที่ตนอยากทำบ้าง เรื่องที่ผ่านมา มันทำให้ตนต้องเป็นคนอดทน คือ ไม่ว่าเรื่องอะไร เรารับแทน เรื่องอะไรที่เราไม่ได้ทำ คนยัดเยียดให้เราเป็นคนทำ เราก็ยังต้องบอกว่าเราเป็นคนทำ เพราะว่าตนไม่ใช่คนดี 100% อยู่แล้ว
“ตอนนี้โสดครับ ชีวิตผมยังไม่ได้พร้อมมีใคร คือปัญหาของผมมันไม่ใช่เยอะ มันยังไม่นาน มันจะมาตามใจทุกคนไม่ได้ที่ว่า ผมจะต้องไปคบคนนู้น คบคนนี้ ตามที่ทุกคนบอก ผมว่าทุกอย่างมันเป็นการตัดสินใจของผมเอง ผมต้องมีเวลาได้ใช้การเรียนรู้ ได้โอกาส ได้ผูกพันกับใคร จนผมรู้สึกว่ามันใช่ และผมต้องไม่มีปัญหาอะไรติดค้างกับตัวผม ผมจึงพร้อมที่จะมีคนอื่นจริงๆ ไม่งั้นมันก็จะเป็นเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา”