นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางเข้า-ออกผ่านท่าอากาศยานในประเทศไทย ในปี 2567 มีประมาณ 140 ล้านคน เพิ่มขึ้น15.12% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีการฟื้นตัว 85.14% เมื่อเทียบกับสภาวะปกติ ขณะที่ปริมาณเที่ยวบินในปี 2567 ในภาพรวมมีจำนวนมากถึง 8.8 แสนเที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้น 11.90% เมื่อเทียบกับปี 2566 อย่างไรก็ตามปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศมีการเติบโตมากกว่าสถานการณ์ปกติ คิดเป็น 101.63% เมื่อเทียบกับปี 2562 และมีจำนวนมากกว่าปี 2566 ถึง 22.4% คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมการบินในปี 2568 มีทิศทางในการฟื้นตัว และสามารถกลับมาเติบโตได้ในระดับเดียวกันกับปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 ที่มีผู้โดยสารประมาณ 160 ล้านคน

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันตลาดอุตสาหกรรมการบินของไทยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 19 ของโลก และมีการคาดการณ์จากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ(IATA) ว่าตลาดการบินของไทยมีโอกาสขยายตัวจนขึ้นสู่อันดับที่ 9 ของโลกภายในปี 2576 ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นศูนย์กลางการบินที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาค และระดับโลกอย่างชัดเจน ดังนั้นแล้วหน่วยงานด้านการบินต้องเร่งเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการพัฒนาขีดความสามารถในการให้บริการ การรักษามาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลรวมทั้งต้องเร่งผลักดันโครงการสำคัญต่าง ๆ ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

นายสุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า ในด้านการออกใบอนุญาต ปี 2567 กพท. ได้ออกใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะเพิ่มเติมอีก 4 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี คาดว่าในปี 2568 จะสามารถออกใบรับรองฯ ได้อีกประมาณ 5-6 สนามบิน และจะครบทั้งหมด 39 แห่งอีกประมาณ 4-5 ปีหลังจากนี้ นอกจากนี้ได้ออกใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือน (AOL) เพิ่ม 3 ราย ได้แก่ บริษัท แอร์ เอเอ็มบี จำกัด, บริษัท บีบีเอ็น แอร์ไลน์(ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ไทย แอร์โรสเปซอินดัสทรีส์ จำกัด และต่ออายุ AOL 5 ราย ได้แก่ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จำกัด, บริษัท ฟลายอิ้ง มีเดีย จำกัด, บริษัท ดรอปโซน(ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท สยามยามาฮ่ามอเตอร์ไรโบทิกส์ จำกัด และบริษัท ยูไนเต็ด ออฟชอร์ เอวิเอชั่น จำกัด

ขณะเดียวกันได้ออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ(AOC) ให้ 4 ราย ได้แก่ บริษัท พัทยา แอร์เวย์ส จำกัด, บริษัท สยามซีเพลน จำกัด, บริษัท เอเซีย เอวิเอชั่น แอนด์ เทคโนโลยี จำกัด และบริษัท ไทย ซีเพลน จำกัด ทำให้มีสายการบินเข้ามาในตลาดการบินเพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ได้ยกเลิก AOC 1 ราย ได้แก่ บริษัท ไทยสมายล์ แอร์เวย์ จำกัดเนื่องจากการควบรวมกิจการ ขณะที่จำนวนอากาศยานที่มีทะเบียนและได้รับใบสำคัญสมควรเดินอากาศสะสมจนถึงปี2567 มีจำนวน 656 ลำ เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 47 ลำ คิดเป็น 4.46%
นายสุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า ขณะที่ผลการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาราคาตั๋วเครื่องบิน พบว่า มาตรการการเพิ่มเที่ยวบินพิเศษช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ที่สายการบินให้ความร่วมมือ และมีที่นั่งเพิ่มขึ้นกว่า 70,000 ที่นั่งนั้นทำให้ตั๋วเครื่องบินมีราคาลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และผู้โดยสารเข้าถึงราคาตั๋วเครื่องบินได้มากขึ้น และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ กพท. ได้หารือ ร่วมกับสายการบิน และผู้ให้บริการทุกหน่วยงานในการเตรียมมาตรการรองรับด้านต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกในการเดินทาง และได้ราคาตั๋วเครื่องบินที่เหมาะสม.