สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า ไมโครซอฟท์เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยี ที่แสดงความสนใจและกำลังเจรจา เพื่อซื้อกิจการของติ๊กต็อก


ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐกล่าวเป็นนัยเกี่ยวกับ “สงครามประมูล” ที่น่าจะเป็นผลดีกับติ๊กต็อก สื่อถึงความเป็นไปได้ว่า มีบริษัทไม่ต่ำกว่า 1 แห่ง ที่แสดงความสนใจต้องการซื้อกิจการของติ๊กต็อก


ด้านสำนักงานของติ๊กต็อกในอเมริกา และไบต์แดนซ์ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต็อก และมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงปักกิ่งของจีน ยังปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ


ก่อนหน้านี้ ทรัมป์กล่าวด้วยว่า โดยส่วนตัวเขา “ไม่มีปัญหา” หากนายอีลอน มัสก์ ต้องการซื้อกิจการของแอปพลิเคชันดังกล่าว และกล่าวว่า “ตอนนี้ยังไม่มี” ติ๊กต็อกบนสมาร์ตโฟนของตัวเอง แต่ทิ้งท้ายว่า “อาจเปลี่ยนแปลงในอนาคต”


ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา เลื่อนการแบนติ๊กต็อกออกไปอีกอย่างน้อย 75 วัน จากที่กฎหมายซึ่งบัญญัติโดยสภาคองเกรส เมื่อปีที่แล้ว กำหนดให้ต้องมีผล เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา


อย่างไรก็ตาม อนาคตของติ๊กต็อกยังไม่แน่นอน เนื่องจากยังคงมีเงื่อนไขสำคัญ คือการที่บริษัทไบต์แดนซ์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงปักกิ่งของจีน และเป็นเจ้าของติ๊กต็อก ต้องขายกิจการในสหรัฐ


นอกจากนี้ ผู้ที่ต้องการใช้งานติ๊กต็อกแล้วต้องการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าว จะไม่สามารถดาวน์โหลดได้ เนื่องจากการห้ามผู้ประกอบการเปิดให้มีการดาวน์โหลดผ่านแอปพลิเคชันสโตร์ยังคงมีผล ดังนั้น แอปเปิลและกูเกิลจึงจำเป็นต้องถอดติ๊กต็อก ออกจากแอปพลิเคชันสโตร์และเพลย์สโตร์ มิเช่นนั้นอาจต้องเสียค่าปรับสูงถึง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 169,494.97 บาท) ต่อการดาวน์โหลด 1 ครั้ง.

เครดิตภาพ : AFP