สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร ให้สำนักงานบริหารจัดการงบประมาณ (โอเอ็มบี) ระงับการอนุมัติเงินกู้ยืม เงินช่วยเหลือ และงบประมาณสนับสนุนทั้งหมดจากรัฐบาลกลาง ตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การที่คำสั่งไม่ได้ให้รายละเอียดอย่างชัดเจนเกี่ยวกับที่มาที่ไป และระยะเวลาบังคับใช้คำสั่ง สร้างความสับสนให้กับหลายฝ่าย ขณะที่พรรคเดโมแครตวิจารณ์อย่างหนัก ว่าคำสั่งดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อโครงการความช่วยเหลือทั้งหมดของรัฐบาลกลาง ที่มอบให้แก่ส่วนท้องถิ่น โครงการด้านสวัสดิการสังคมทั้งหมด และการจ่ายเงินเดือนให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐทั่วประเทศจะได้รับผลกระทบด้วย
.@PressSec: "This is not a blanket pause on federal assistance and grant programs from the Trump Administration. Individual assistance that includes…Social Security benefits, Medicare benefits, food stamps, welfare benefits…will not be impacted by this pause." pic.twitter.com/4Ifx4cm97P
— CSPAN (@cspan) January 28, 2025
อย่างไรก็ดี เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนคำสั่งจะมีผลบังคับใช้ ศาลรัฐบาลกลางในกรุงวอชิงตันมีคำพิพากษา ให้ระงับคำสั่งของผู้นำสหรัฐในเรื่องนี้ โดยศาลเตือนว่า รัฐบาลกลางไม่สามารถระงับการจ่ายงบประมาณให้กับโครงการที่กำลังดำเนินอยู่แล้วได้ และคำสั่งศาลมีผลจนถึงวันที่ 3 ก.พ. นี้ เป็นอย่างน้อย
ขณะที่นางแคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวโต้แย้งศาลว่า คำสั่งในเรื่องนี้เป็นการใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญของประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งมีเหตุผลเพื่อให้การบริหารจัดการ การใช้งบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชน “มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” และไม่ใช่การระงับความช่วยเหลืออย่างที่ทุกฝ่ายตีความ แต่เป็นการทบทวน “ความจำเป็น” ของแต่ละโครงการ ซึ่งในระหว่างนี้ หน่วยงานที่ประสงค์ขอรับความสนับสนุนยังคงสามารถยื่นคำร้องได้ตามปกติ.
เครดิตภาพ : AFP