สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงโศกนาฏกรรมเครื่องบินโดยสารของสายการบินอเมริกัน อีเกิล เที่ยวบิน 5342 ซึ่งเป็นสายการบินท้องถิ่นในเครืออเมริกัน แอร์ไลน์ส ชนกลางอากาศกับเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กของกองทัพสหรัฐ เหนือแม่น้ำโพโทแมก ในกรุงวอชิงตัน เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่สร้างความเศร้าสลดให้กับชาวอเมริกันทั้งประเทศ


ขณะเดียวกัน ทุกฝ่ายในสหรัฐขอมอบกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่กู้ภัย และพนักงานสืบสวนสอบสวนทุกคน ซึ่งยังคงปฏิบัติงานอย่างสุดความสามารถ เพื่อเก็บกู้และไขความกระจ่างของเหตุการณ์ครั้งนี้


แม้ทรัมป์ยอมรับว่า การสืบสวนสอบสวนเพื่อค้นหาสาเหตุของอุบัติเหตุกลางอากาศที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินพาณิชย์ ครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 16 ปีของประเทศ เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐกล่าวถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ หรือหอบังคับการบิน “ที่มีศักยภาพและประสิทธิภาพลดลง” เนื่องจากเป็นผลของนโยบายความหลากหลายและความเท่าเทียม ในยุคประธานาธิบดีโจ ไบเดน และย้อนไปถึงสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา เช่นกัน

ทั้งนี้ทั้งนั้น ทรัมป์เน้นย้ำว่า ไม่ได้กล่าวโทษการทำงานของเจ้าหน้าที่หอบังคับการบิน และขอให้ประชาชนเชื่อมั่นกับการเดินทางทางอากาศต่อไป ว่าเพดานบินของเครื่องบินทั้งสองลำ “เป็นประเด็นที่ต้องตั้งคำถาม”


ด้านเดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าว ว่าท่าอากาศยานนานาชาติโรนัลด์ เรแกน ที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุเครื่องบินสองลำชนกันครั้งนี้ ประสบกับปัญหาขาดแคลนบุคลากรประจำหอควบคุมการบินมานานระยะหนึ่งแล้ว และเจ้าหน้าที่คนเดียว ต้องควบคุมการจราจรทั้งของเครื่องบินพาณิชย์ และเฮลิคอปเตอร์.

เครดิตภาพ : AFP