จากกรณีเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บพลาสติกรีไซเคิล เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 68 พบข้อมูลทางทะเบียน “บริษัทมหาโชค มหาชัย เทรดดิ้ง” จดทะเบียนบ้านที่ 111/11 หมู่ 6 ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร โดยมีรายงานว่า บริษัทที่ปรากฏชื่ออยู่ในโกดังที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ มีความเชื่อมโยงกับบริษัทที่อยู่ในละแวกเดียวกันทั้งหมด

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ชุดปฏิบัติการสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม, นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม, นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม, เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม, สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ลงพื้นที่โกดังที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว เพื่อตรวจสอบสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้ ป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ รวมไปถึงตรวจสอบกรณีการขออนุญาตประกอบกิจการไม่ถูกต้องด้วย

นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า ได้รับรายงานจากชุดปฏิบัติการสุดซอยว่า เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมกับตำรวจ บก.ปทส. ได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และบริษัทใกล้เคียงที่พบว่ามีความเกี่ยวพันกัน ได้แก่ บริษัท เอ็ม ซี ที รอยัล วูด จำกัด และ บริษัท บีเค รีไซเคิล จำกัด ที่ตั้งอยู่ห่างกันเพียง 100 เมตร จากการตรวจค้นทั้ง 2 บริษัท และโกดังที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ พบกองพลาสติกเปลือกหุ้มสายไฟจากต่างประเทศที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการหลอมเป็นเม็ดพลาสติกรวมแล้วกว่า 6,900 ตัน ซึ่งสามารถนำไปหลอมเป็นเม็ดพลาสติกใหม่ ได้มูลค่ากว่า 170 ล้านบาท

“ทีมสุดซอยเข้าตรวจค้นพบการเปลี่ยนแปลงจากบริษัท เอ็ม ซี ที รอยัล วูด จำกัด และ บริษัท บีเค รีไซเคิล จำกัด เป็น บริษัท เถิงต๋า พลาสติก แอนด์ เมทเทิล จำกัด และ บริษัท ปวริศาแอสเสท จำกัด ภายในโรงงานพบการประกอบกิจการผิดประเภท มีการตั้งโรงงานบดย่อยหลอมพลาสติก เป็นการตั้งโรงงานและประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่ทราบที่มาของวัตถุดิบ” นายเอกนัฏ ระบุ

รมว.อุตสาหกรรม กล่าวต่อว่า อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร จึงได้ออกคำสั่งให้ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนทันที และจะเพิกถอนใบอนุญาตของ บริษัท เอ็ม ซี ที รอยัลวูด จำกัด และ บริษัท บี.เค. รีไซเคิล จำกัด พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายกับทั้ง 2 บริษัท รวมทั้งเจ้าของที่ดินที่ตั้งโรงงาน ในข้อหาตั้งและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งหากพบผู้กระทำผิดเพิ่มก็จะดำเนินคดีร่วมกันกระทำผิดเพิ่มเติมจนถึงที่สุด ทั้งนี้ หากประชาชนพบปัญหาเกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรม สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่าน “แจ้งอุต” https://landing.traffy.in.th?key=wTmGfkav หรือไลน์ไอดี “traffyfondue” เพื่อทางกระทรวงฯ จะเร่งส่งทีมสุดซอยลงจัดการปัญหาหรือส่งต่อให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป