สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปานามาซิตี ประเทศปานามา เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ว่า นายมาร์โก รูบิโอ รมว.การต่างประเทศสหรัฐ เข้าพบ ประธานาธิบดีโฮเซ มูลิโน ผู้นำปานามา ที่กรุงปานามาซิตี เมื่อวันอาทิตย์ โดยนับเป็นการเยือนปานามาเป็นครั้งแรกของรูบิโอ นับตั้งแต่รับตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ รูบิโอกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ว่าสหรัฐไม่อาจยอมรับได้ กับการที่คลองปานามา “มีสถานภาพเช่นนี้” กล่าวคือ การที่ปานามาปล่อยให้จีนในบทบาทกับการบริหารคลอง และหากรัฐบาลปานามายังคงปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป รัฐบาลวอชิงตัน “จะดำเนินมาตรการที่จำเป็น” เพื่อปกป้องสิทธิของสหรัฐ ภายใต้สนธิสัญญาคลองปานามา

ประธานาธิบดีโฮเซ มูลิโน ผู้นำปานามา ต้อนรับนายมาร์โก รูบิโอ รมว.การต่างประเทศสหรัฐ ที่ทำเนียบในกรุงปานามาซิตี


อนึ่ง ทรัมป์ยังคงไม่ปฏิเสธ “การใช้มาตรการทางทหาร” กับปานามา “เพื่อทวงคืนคลอง” อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ รัฐบาลวอชิงตันยังไม่ให้ความเห็นเพิ่มเติมอีก อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่มขึ้นถาษีกับแคนาดาและเม็กซิโก 25% และขึ้นภาษีจีนจากอัตราเดิมอีก 10%


สถิติโดยองค์การคลองปานามา เมื่อปีงบประมาณ 2567 เปิดเผยว่า เกือบ 75% ของเรือบรรทุกสินค้าที่เดินทางผ่านตลอดช่วงเวลาดังกล่าว มาจากสหรัฐ และ 21% มาจากจีน


ขณะที่มูลิโนกล่าวว่า จนถึงตอนนี้ รัฐบาลปานามาขอยืนยันว่า “ไม่มีภัยคุกคามอย่างโจ่งแจ้ง” กำลังเกิดขึ้นกับคลองปานามา และเน้นย้ำว่า อธิปไตยของคลองปานามา “เป็นเรื่องที่เจรจาไม่ได้อย่างเด็ดขาด” เนื่องจากกระบวนการทั้งหมด เป็นไปตามข้อตกลงการส่งมอบคลองปานามา ซึ่งมีการส่งมอบอย่างเป็นทางการ เมื่อ 25 ปีที่แล้ว แม้สหรัฐมีบทบาทสำคัญกับการก่อสร้างคลองแห่งนี้ เมื่อปี 2457

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลปานามาจะไม่ต่ออายุข้อตกลงริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” กับจีน ที่ลงนามร่วมกันเมื่อปี 2560 พร้อมทั้งจะไม่ขยายระยะเวลาของข้อตกลงอีกสองฉบับกับรัฐบาลปักกิ่ง ที่จะหมดอายุในปี 2570 และ 2571.

เครดิตภาพ : AFP