เรียกได้ว่าห่างหายจากวงการไปนานพอสมควรเลย สำหรับนักแสดงหนุ่ม “อ้วน รังสิต” พระเอกวัย 40 ที่ขึ้นแท่นเป็นคุณพ่อลูกหนึ่ง “น้องโรฮา” ลูกชายสุดที่รักของตนและภรรยาชาวเกาหลี “ปาร์ค ฮยอน ซอน” หรือ “มะม่วง” ซึ่งถ้าใครติดตามโซเชียลของหนุ่มอ้วน ก็จะเห็นความน่ารักและพัฒนาการของน้องโรฮากันอยู่เสมอ จนเรียกได้ว่าทุกคนที่รับชมต้องโดนตกทุกราย

ล่าสุดในงาน Draft Day รายการ Street Bask 3X3 อ้วน รังสิต ได้อัปเดตเรื่องราวของครอบครัว พร้อมอยากอวดหุ่นฟิต ลงรูปหุ่นผ่านโซเชียล เก็บไว้เป็นที่ระลึกของหุ่นวัย 40 ปี

อ้วน รังสิต เผยว่า คือทุกคนจะเห็นรูปออกกำลังของเราผ่านทางโซเชียล อินสตาแกรม อยู่บ่อยๆ ก็มีคนหลุดโฟกัสอยู่บ่อยๆ อย่างช่วงหลังก็อาจจะมีโชว์หุ่นบ้าง เพราะว่าผมก็ไปถ่ายแบบมา ช่วงที่เราฟิตร่างกาย ผมก็เลยถ่ายไว้เป็นที่ระลึกหน่อย ซึ่งเราวัย 40 แล้วนะ ซึ่งถ้ามีเยอะก็อยากอวดนะ แต่ว่าก็มีไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แล้วเวลาเราเล่นออกกำลังกาย เราก็รู้สึกว่าอยากไปต่อนะ แต่เราก็ไม่ค่อยไหวเท่าไหร่ เราก็เลยเอาเท่าที่เราทำได้ ซึ่งมันก็ยากมากๆ สำหรับคนที่มีครอบครัวแล้ว ที่เราจะต้องมานั่งดูแลตัวเองให้ได้ เพราะว่าเลี้ยงลูกก็เหนื่อย ดูแลครอบครัวก็เหนื่อยแล้ว ถ้าเกิดมีงานด้วยก็ยิ่งเหนื่อยเข้าไปอีก แล้วต้องมานั่งออกกำลังกายอีก ซึ่งมันเป็นอะไรที่ยากมากๆ แต่เราก็อยากให้ทุกคนปลุกจิตวิญญาณตรงนั้นขึ้นมาให้ได้ เพราะว่าถ้าเกิดเราปล่อยตัวเองเลยตามเลย มันก็จะยิ่งทำให้เราขี้เกียจ แล้วก็จะทำให้เราไฟหมดไปเรื่อยๆ

แล้วอย่างตอนนี้ “น้องโรฮา” ก็เป็นเด็กที่ไม่ค่อยดื้อ แล้วตอนนี้ก็เข้าโรงเรียนแล้วด้วย จะหนักอย่างเดียวคือเขาชอบเล่น เขาก็จะบอกว่าอยากเล่น ก็เลยไม่ค่อยชอบนอน เรียกได้ว่าเป็นเด็กที่ไม่อยากนอนกลางวัน กลางคืนก็ไม่อยากจะนอน ถ้าเกิดว่าไม่บังคับ เขาก็ไม่นอน ซึ่งตอนนี้น้องก็เรียนอยู่โรงเรียนไทย แต่ถ้าส่งไม่ไหวก็อาจจะมีปรึกษากันว่าให้ไปเรียนเกาหลี เพราะเกาหลีเขามีให้เรียนฟรี ซึ่งเราก็หนักใจเหมือนกัน พอเรียนที่นี่ค่าเรียนก็ค่อนข้างสูง ซึ่งตอนนี้เขาก็สี่ขวบ เราก็ทำทุกอย่างหาเลี้ยงลูก

ส่วนแม่มะม่วง เขาก็ทำงานของเขาด้วย ก็จะทำอาหารให้ลูก ส่วนเราก็จะมีรับงานพวกรีวิวด้วย ซึ่งตอนแรกผมคิดว่าถ้าไม่มีลูก ผมก็จะเกษียณแล้ว เพราะไม่อยากเหนื่อยแล้ว แต่อย่างตอนนี้มีเท่านี้ มันก็ไม่พอใช้ มันก็จะต้องพยายามมากขึ้น ส่วนช่วงนี้งานแสดงก็เงียบ ยังไม่ค่อยมีอะไร แต่ถ้าเกิดมีการติดต่อเข้ามา เราก็จะเลือกน้อยลง เพราะอย่างเมื่อก่อนนี้ เลือกเยอะก็เลยตกงาน ตอนนี้ก็ทำเพื่อลูกอย่างเดียว สำหรับเพื่อลูก เราก็จะทำให้ได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เราก็ไม่ถึงขั้นที่จะเอาเป็นเอาตายขนาดนั้น ทุกคนก็มีความสุข สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องมีความสุข นั่นคือเป้าหมายของผม ก็เลยไม่ต้องถึงขั้นทุรนทุรายหาเงินอย่างเดียว ส่วนเรื่องฝุ่นอยู่ตอนนี้ก็หนัก ควรเซฟไปก่อน ถ้าเราเช็กกับแอปแล้วฝุ่นมันเยอะจริงๆ ก็อย่าเพิ่งออกไปข้างนอกเลยดีกว่า ต่อให้เราออกไป เหมือนเราอยากออกไปสูดอากาศข้างนอก เราก็จะได้อากาศที่ไม่ดีเข้าร่างกายเปล่าๆ ส่วนวิธีป้องกันของเราตอนนี้ก็คือไม่ออกไปข้างนอก แต่ถ้าเราอยากจะออกกำลังกายจริงๆ เราก็ออกแบบอินดอร์ ซึ่งมันก็มีทางเลือกอยู่ แต่ก็ตามศักยภาพของแต่ละครอบครัวด้วย

อ้วน รังสิต เผยทิ้งท้ายเรื่องฝุ่น PM 2.5 ว่า “ซึ่งถามว่ามีความกังวลเรื่องฝุ่นกับลูกไหม คือไม่ค่อยกังวลเพราะแม่เขาดูแลดี อย่างถ้าฝุ่นหนักๆ แม่เขาก็ให้หยุดเรียนเลย ซึ่งพวกเราก็ไม่ค่อยออกจากบ้านอยู่แล้ว ก็เลยไม่ค่อยมีผลกระทบอะไร”

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก auan_rangsit