สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ว่า การผลิตไฟฟ้าของอิสราเอลในสัดส่วนประมาณ 70% มาจากก๊าซธรรมชาติ ส่วนอีกประมาณ 15% มาจากพลังงานหมุนเวียน และกระทรวงพลังงานอิสราเอล กำหนดเป้าหมายไว้ที่ 30% ภายในปี 2573 ซึ่งจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายในปี 2593 เมื่อประเทศตั้งเป้าบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
“นี่คือสิ่งที่เรียกว่า การเปลี่ยนผ่านพลังงาน จากผู้คนที่เป็นผู้บริโภค ไปสู่การเป็นสมาชิกที่กระตือรือร้นภาคส่วนพลังงาน และกลายเป็นผู้ผลิต” นายรอน ไอเฟอร์ หัวหน้าฝ่ายพลังงานยั่งยืนของกระทรวงพลังงานอิสราเอล กล่าว
ทั้งนี้ ครัวเรือนจำนวนหนึ่งในอิสราเอล ผลิตพลังงานด้วยตัวเอง และขายพลังงานส่วนที่เหลือให้กับโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศ ซึ่งไอเฟอร์กล่าวเสริมว่า บ้านเรือนเหล่านี้ผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 6,700 เมกะวัตต์ แต่กระทรวงพลังงานกำลังพิจารณาเพิ่มตัวเลขข้างต้น เนื่องจากครอบครัวโดยเฉลี่ยใช้ไฟฟ้า 8 เมกะวัตต์ต่อชั่วโมงในแต่ละปี
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานอิสราเอลเปิดตัวเว็บไซต์แผนที่ ซึ่งประชาชนสามารถป้อนที่อยู่ของตนเอง เพื่อแสดงพื้นที่ว่างสำหรับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ตลอดจนคำนวณปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้ และจำนวนเงินที่พวกเขาจะได้รับจากการขายไฟฟ้าส่วนเกิน
“เราต้องการสนับสนุนให้ประชาชนและหน่วยงานท้องถิ่น ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา” นายยอสซี ดายัน อธิบดีประจำกระทรวงพลังงานอิสราเอล กล่าว พร้อมกับเสริมว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยลดค่าไฟฟ้า มอบความมั่นคงด้านพลังงานแก่ครอบครัวในยามฉุกเฉิน และรักษาสิ่งแวดล้อม.
เครดิตภาพ : AFP
