สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ว่า คณะกรรมาธิการการเงินของวุฒิสภาสหรัฐ จัดการพิจารณาคุณสมบัติของนายเจมีสัน เกรียร์ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้แทนการค้าสหรัฐ


ทั้งนี้ เกรียร์ วัย 44 ปี ซึ่งมีบทบาทในการเจรจาข้อตกลงการค้าไตรภาคีสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา (ยูเอสเอ็มซีเอ) และข้อตกลงการค้า “ระยะที่หนึ่ง” กับจีน ในยุครัฐบาลทรัมป์สมัยแรก กล่าวในตอนหนึ่ง ว่าสหรัฐ “ควรมีพื้นที่แสดงบทบาทอย่างเท่าเทียม” เพื่อการแข่งขันทางการค้าในระดับโลก และสหรัฐซึ่งเป็นประเทศมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก “จำเป็นต้องมีฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง”


ขณะเดียวกัน เกรียร์กล่าวว่า สหรัฐ “ต้องอยู่ในฐานะประเทศผู้ผลิต” มากกว่าการเป็นผู้ซื้อ และความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีน “ต้องเท่าเทียมและสมดุล” หลังมาตรการขึ้นภาษีของทรัมป์ต่อจีน เพิ่มจากอัตราเดิมอีก 10% มีผลเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา และจีนตอบโต้ด้วยการเตรียมขึ้นภาษีสินค้าหลายอย่างของสหรัฐ เพิ่มจากอัตราเดิมอีก 10-15% มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. นี้


นอกจากนี้ เกรียร์กล่าวว่า ควรมีการพิจารณาและศึกษาอย่างละเอียด เกี่ยวกับการใช้มาตรการกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากทุกประเทศ (Universal Tariff) เพื่อลดการขาดดุล และย้ายฐานการผลิตสินค้าของสหรัฐให้กลับมาอยู่ในประเทศ

อนึ่ง ทรัมป์มีแนวคิดจะเก็บภาษีศุลกากรครอบคลุมสินค้านำเข้าทั้งหมดของสหรัฐมานานแล้ว และหากได้รับการรับรองคุณสมบัติจากวุฒิสภา เกรียร์จะเป็นผู้กำหนดและบังคับใช้นโยบายดังกล่าว ในฐานะผู้แทนการค้าของประธานาบดีสหรัฐ.

เครดิตภาพ : AFP