สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ว่า ทรัมป์เสนอแผนการเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว ในการย้ายชาวกาซาออกจากดินแดนปาเลสไตน์ ไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค ส่วนสหรัฐจะเข้ามารับผิดชอบการพื้นฟูฉนวนกาซา ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าว จุดชนวนให้เกิดการตอบโต้ทางการทูต

ขณะเดียวกันในฉนวนกาซา เจ้าหน้าที่คนหนึ่งจากกระทรวงมหาดไทยที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มฮามาส กล่าวว่า ชาวปาเลสไตน์จำนวนมากสามารถเดินทางข้ามเส้นทางเนตซาริมได้แล้ว หลังทหารอิสราเอลถอนกำลังออกไป ภายใต้เงื่อนไขการสงบศึกระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี และนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ผู้นำเยอรมนี เป็นผู้นำโลกสองคนล่าสุดที่ประณามแผนการของทรัมป์ โดยชี้ให้เห็นว่า ไม่มีใครที่มีอำนาจขับไล่ชาวกาซาออกจากบ้านเกิดของพวกเขาได้ พร้อมกับเสริมว่า ฉนวนกาซา เขตเวสต์แบงก์ และเยรูซาเลมตะวันออก เป็นของชาวปาเลสไตน์

อย่างไรก็ตาม เนทันยาฮู ซึ่งกลับมาถึงอิสราเอลหลังเดินทางเยือนสหรัฐ เน้นย้ำถึงการสนับสนุนข้อเสนอของทรัมป์ ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี ในการให้สหรัฐยึดฉนวนกาซา และอพยพผู้อยู่อาศัยออกจากดินแดนปาเลสไตน์ แม้แผนการดังกล่าว เรียกเสียงประณามจากทั่วโลกก็ตาม

“ประธานาธิบดีทรัมป์ มาพร้อมกับวิสัยทัศน์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง และดีขึ้นอย่างมากสำหรับอิสราเอล นั่นคือแนวทางที่ปฏิวัติและสร้างสรรค์ ซึ่งพวกเรากำลังหารืออยู่ในขณะนี้” เนทันยาฮู กล่าวเพิ่มเติม “เขามีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะนำแนวทางนี้ไปปฏิบัติ และผมเชื่อว่า มันจะเปิดโอกาสมากมายให้กับเรา”.

เครดิตภาพ : AFP