สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ว่า ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยกระทรวงกิจการพลเรือน เมื่อปีที่แล้ว มีคู่สามีภรรยาจดทะเบียนสมรสในประเทศ 6.1 ล้านคู่ ซึ่งลดลงจาก 7.7 ล้านคู่ในปีก่อนหน้า หรือ 20.5% และสอดคล้องกับการลดลงของประชากรโดยรวมปีที่ 3 ติดต่อกัน

ประชากรจีน 1,400 ล้านคน กำลังมีอายุมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดย ณ สิ้นปีที่แล้ว เกือบ 1 ใน 4 ของประชากรมีอายุ 60 ปีขึ้นไป

แม้รัฐบาลจะออกแคมเปญสนับสนุนให้ครอบครัวมีลูก แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในด้านการศึกษาและการดูแลเด็ก และตลาดการจ้างงานที่ท้าทายสำหรับบัณฑิตจบใหม่ เป็นปัจจัยทำให้พ่อแม่รู้สึกท้อถอย

“ถ้าฉันไม่พึ่งพาพ่อแม่ ฉันก็ไม่มีเงินซื้อบ้าน และการแต่งงานก็มีค่าใช้จ่ายมหาศาล” ผู้ใช้เว่ยป๋อรายหนึ่งกล่าว และเสริมว่า “ในปีนี้ ฉันรู้สึกทันทีว่าการเป็นโสดก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน ไม่มีแรงกดดันมากนัก ฉันหาเงินและใช้เงินของตัวเอง”

หลังรัฐบาลปักกิ่งบังคับใช้ “นโยบายลูกคนเดียว” อย่างเข้มงวด ระหว่างปี 2523 จนถึงปี 2559 และต่อจากนั้นอนุญาตให้คู่สมรสมีลูก 3 คนได้ ในปี 2564 แต่สัญญาณของการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ของจีน ก็เริ่มปรากฏให้เห็น

จำนวนการแต่งงานที่ลดลงในจีน เพิ่มแรงกดดันต่อระบบเงินบำนาญ และส่งผลกระทบสืบเนื่องต่อระบบสาธารณสุข

เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลปักกิ่งประกาศว่า จะทยอยปรับเพิ่มอายุเกษียณตามกฎหมาย จากปัจจุบันอยู่ที่ 60 ปี และเป็นหนึ่งในประเทศซึ่งกำหนดเพดานอายุเกษียณต่ำสุดในโลก.

เครดิตภาพ : AFP