เรียกได้ว่าเป็นดาราอีกหนึ่งคนที่ดารารุ่นใหม่นับถืออย่างมาก สำหรับ “เกรท วรินทร” พระเอกเบอร์ใหญ่ของไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ถูกเชิญมาเป็นผู้ใหญ่ในงานแต่ง ทั้งของ “เจมส์ จิรายุ” และ “อเล็กซ์ เรนเดล” จนแฟนๆและคนบันเทิงหลายคนแห่ถามว่า เมื่อไหร่จะถึงคิวงานแต่งของหนุ่มเกรทบ้าง ซึ่งเป็นคำถามที่เจ้าตัวเจอบ่อยมากนั้น
ล่าสุดในงานแถลงข่าว “มหกรรมความบันเทิง ครบรอบ 55 ปี สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3“ หนุ่มเกรทก็ได้เปิดใจถึงเรื่องความรักและงานแต่งของรุ่นน้องสุดที่รักพร้อมแง้มของขวัญที่จะมอบให้ ถ้าเจมส์จิมีลูก
เกรท เผยว่า ”สำหรับงานแต่งเจมส์จิคือโมเมนต์ดีมากทุกอย่างลงตัว น่ารักลงตัว สถานที่ดี ทุกอย่างอบอุ่น ดีใจที่น้องให้เราได้ไปอยู่ตรงนั้น คู่ของเขาอยู่ในสายตาเราตลอดเวลาเราก็เห็นมาตลอด ผมก็ได้ไปเที่ยวไหนมาไหนด้วยกันกับเขาทั้งสองคนด้วย ในความรู้สึกของผมก็ได้เห็นในความน่ารักที่ต่างคนต่างเป็นตัวของตัวเองทั้งคู่ เราก็รู้สึกว่ามันลงล็อกและมันเข้ากันได้ดี ในความคิดเราที่เราได้อยู่ข้างข้าง แต่ว่าอาจจะเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยพูดกับเขา จากที่เราเห็นแล้วมันสมควรแล้วแหละที่มีงานในวันนั้นเกิดขึ้น ส่วนโฟมก็จะเป็นผู้หญิงที่เก่ง ช็อตฟิวเก่ง เป็นคนที่เจมส์เคารพ เธอน่ารัก ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ โฟมเขามีความน่ารัก เรียกว่าเวลาอยู่ในกลุ่มเพื่อน โฟมเค้าจะเป็นคนที่จัดการเก่ง และเวลาเจมส์ทำงานหนักหนัก ก็จะมีไปบ้างลืมบ้าง โฟมก็จะคอยทำให้เข้าที่เข้าทาง คือมันก็จะมีหลายสถานการณ์ที่พอโฟมดุ เจมส์เขาก็จะบอกว่าขอโทษแม่ ถามว่าเจมส์กลัวโฟมหรอ เรียกว่าใช้คำว่าเคารพ ดูดีกว่ากลัว
คือในงานวันแต่งงานถึงเวลา ณ ตอนนั้นมันพูดอะไรไม่ออก คือผมเห็นน้องมานาน ยังเจมส์เห็นตั้งแต่วันแรกจนเขาแต่งงาน เราอยู่ในช่วงชีวิตของเขาที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ เหมือนผ่านไปสู่บทเรียนของชีวิต เรารู้สึกภาคภูมิใจจากเขา แค่รู้สึกว่าเราจะอยู่ข้างเขาไปเรื่อยเรื่อย ทุกอย่างมันเหมือนเดิม ส่วนเรื่องทองผมรอให้เขามีน้อง คือคุยกับเขาไว้แล้ว ถามว่าให้เท่าไหร่ตามความพึงพอใจของณช่วงเวลานั้น ก็แล้วแต่ราคาทอง ถ้าเกิดเจมส์มีลูกแฝดก็จะให้คูณสอง ซึ่งเขาไม่ได้บอกเลยว่ามีลูกในช่วงนี้หรือเปล่า เอาจริงๆผมก็รอจังหวะ รอลุ้นอยู่
ส่วนผมก็มีคนถามเข้ามาเยอะว่าจะมีเมียเมื่อไหร่ เพราะผมก็ไปงานแต่งเยอะทั้งงานแต่งเจมส์และ อเล็กซ์ เรนเดล คนก็ถามเยอะแต่ว่าก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามสถานการณ์ คำถามเดิมตอบเหมือนเดิม ยังไม่มีอะไร เราอยากให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ แต่คือทุกครั้งที่ไปงานแต่งงาน นั่งมองน้องก็รู้สึกแบบปลื้มปริ่มไปด้วย คือมันถึงโอกาสของเราแล้วค่อยว่ากันอีกที ซึ่งเวลาใครถามแบบนี้ผมก็จะเขินคือเราไม่สามารถที่จะอธิบายให้เค้าฟังได้เราก็จะบอกเขาว่าเออมันยังถึงเวลาแค่นั้นเอง แต่ในความรู้สึกผมผมก็แค่รู้สึกว่างานแต่งงานมันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่นะ พอมีเพื่อนเพื่อนมารวมตัวกันเยอะเยอะ มีผู้ใหญ่ มันก็คงจะเขิน ถ้าเกิดว่าถ้ามีงานแต่งจริงๆ ก็อาจจะไม่ได้จัดอะไรใหญ่โต แต่เราไม่ได้ปิดกั้นแต่ว่ายังไม่มี
คือเรื่องนี้มันเคยเป็นข้อพูดถึงในครอบครัวแต่ตอนนี้ไม่ได้จริงจังแล้ว คือเจตนารมย์เราก็คือชัดเจนกับที่บ้าน คือตัวเราเองรู้สึกว่าถ้าพ่อแม่อยากให้มีก็อยากมีให้เขา แต่ว่าต้องเป็นอะไรที่เรามั่นใจจริงๆ มันก็เลยยังไม่ได้เกิดขึ้น อะไรแต่ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ซีเรียสของทางบ้าน เพราะว่าได้ชี้แจงกันแล้ว ส่วนเรื่องนี้ถ้าคุณบอยซีเรียสเขารอผม ถ้าบอยซีเรียสบอยก็ไม่ต้องรอเรา เราอยากให้เขาไปก่อนได้เลย ผมเป็นประเภทชอบไปงานแต่งเพื่อน ถ้าเกิดว่าเพื่อนแต่งผมไป เพื่อนอยากให้ผมทำอะไรในงานแต่งผมพร้อมซัพพอร์ตทุกอย่าง ถ้าถามว่าระหว่างบอยกับอาเล็กใครจะแต่งก่อนกัน ผมว่า “อาเล็ก ธีรเดช” วิ่งเข้าไปก่อน ส่วนของผมก็ต้องคอยติดตามตอนต่อไป“
