สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ว่า นายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีหมายเลขหนึ่งของโลก ซึ่งตอนนี้ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานประสิทธิภาพรัฐบาล (ดอจ) หน่วยงานพิเศษที่ก่อตั้งโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ปรากฏตัวที่ทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการครั้งแรก คู่กับทรัมป์ ภายในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับการทำงานของดอจ


มัสก์กล่าวว่า การปรับลดงบประมาณส่วนกลาง “ไม่ใช่ทางเลือกแต่เป็นเรื่องจำเป็น” โดยอ้างอิงสถิติการขาดดุลงบประมาณที่สูงถึง 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 61.33 ล้านล้านบาท) เมื่อปีงบประมาณที่แล้ว และการที่สหรัฐต้องชำระหนี้สาธารณะด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูง ซึ่งอาจทำให้สหรัฐล้มละลายได้ในอนาคต หากไม่มีการแก้ไขเสียตั้งแต่ตอนนี้


เกี่ยวกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และเสียงคัดค้านของประชาชนที่มากขึ้น มัสก์กล่าวว่า ชาวอเมริกันเลือกทรัมป์มาเพื่อ “ปฏิรูปธรรมาภิบาลครั้งใหญ่” และยืนยันการทำงานอย่างโปร่งใส โดยยืนยันว่า เข้ามาช่วยงาน “ด้วยความบริสุทธิ์ใจ” และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนใดทั้งสิ้น


เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านั้น ทรัมป์กล่าวว่า หนึ่งในเหตุผลที่ชาวอเมริกันเลือกเขาเข้ามา คือเพื่อ “ค้นหาและกำจัดขยะ” ในโครงสร้างอำนาจบริหารของสหรัฐ ซึ่งเขากำลังทำเช่นนั้น และมัสก์เข้ามาช่วยเพื่อ “ขุดรากถอนโคนการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น” ในภาครัฐ

ทรัมป์กล่าวต่อไปว่า “มัสก์ไม่ได้อะไรเลย” จากการเข้ามาช่วยเหลือทำเนียบขาวในเรื่องนี้ ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า อันที่จริงเขาสงสัยมากด้วยซ้ำ ว่าอีกฝ่ายแบ่งเวลาตอนไหนมาช่วยรัฐบาลวอชิงตัน เพราะมัสก์ต้องดูแลธุรกิจของตัวเองมากมายอยู่แล้ว


อย่างไรก็ตาม ขอบเขตการทำงานและการใช้อำนาจของดอจ เป็นที่ถกเถียงและมีการต่อสู้กันทางกฎหมายมากขึ้นในหลายกรณี นับตั้งแต่การตรวจสอบของมัสก์และดอจ นำไปสู่การระงับการดำเนินงานของหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ (ยูเอสเอด) และตอนนี้กำลังตรวจสอบสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านการเงิน (ซีเอฟพีบี).

เครดิตภาพ : AFP