สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า การเพิ่มกำแพงภาษีรถยนต์นำเข้า “จะอยู่ที่ประมาณ 25%” และน่าจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. ที่จะถึง ขณะเดียวกัน ทรัมป์เปิดเผยว่า เตรียมขึ้นภาษียาจากต่างประเทศด้วย ในอัตราอย่างน้อย 25%


ปัจจุบัน ราว 50% ของรถยนต์ที่จำหน่ายในสหรัฐ มาจากการประกอบภายในประเทศ ขณะที่การนำเข้าชิ้นส่วน ส่วนใหญ่มาจากเม็กซิโกและแคนาดา ที่เหลือมาจากประเทศผู้ผลิตชิ้นส่วนและส่งออกรถยนต์รายใหญ่ของโลก อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเยอรมนี


ขณะที่ นายจิม ฟาร์ลีย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของฟอร์ด มอเตอร์ ออกมาแสดงความไม่พอใจ ที่ผู้นำสหรัฐเตรียมขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม จากแคนาดาและเม็กซิโก ในอัตรา 25% ซึ่งจะมีผลในวันที่ 12 มี.ค. นี้ จะส่งผลกระทบต่อการบูรณาการของห่วงโซ่อุปทานระหว่างสหรัฐ กับแคนาดา และเม็กซิโก ตามกรอบข้อตกลงการค้าสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา (ยูเอสเอ็มซีเอ).

เครดิตภาพ : AFP