เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ณ ห้องประชุมพระพุทธบาท ชั้น 4 ศูนย์ราชการ จ.สระบุรี ต.ตะกุด อ.เมือง จ.สระบุรี นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการ จ.สระบุรี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญปี 2568 ของ สภาอุตสาหกรรม จ.สระบุรี โดยมีนายเจริญชัย เฉลียวเกรียงไกร ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.สระบุรี พร้อมคณะที่ปรึกษา คณะกรรมการบริหารฯ สมาชิกฯ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการ เข้าร่วม       

นายบัญชา กล่าวว่า สภาอุตสาหกรรม  เป็นหนึ่งในเสาหลักของเศรษฐกิจ จ.สระบุรี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างงาน สร้างรายได้ และขับเคลื่อนภารพัฒนาในหลายมิติ ตลอดเวลาที่ผ่านมา สภาอุตสาหกรรม จ.สระบุรี ได้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการประสานความร่วมมือ “ระหว่างภาครัฐและเอกชน” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมของ จ.สระบุรี เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ในปี 2568 นี้ เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมต้องเผลิญกับความท้าทายใหม่ๆ ทั้งการเปลี่ยนแปลงทางเสคโนโลยี่ แนวโน้มเศรษฐกิจโลก และนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม       

ในขณะเดียวกัน จ.สระบุรีได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการขับเคลื่อน “สระบุรี แชนด์บ็อกซ์” Saraburi Sandbox ซึ่งเป็นพื้นที่ทดลองนวัตกรรมและเทคโนโลยี่ใหม่ๆ ที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เรามุ่งหวังให้ จ.สระบุรีเป็นต้นแบบของการพัฒนาเมืองคาร์บอนต่ำ (Low Carbon City ) ที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน       

ผู้ว่าราชการ จ.สระบุรี กล่าวในตอนท้ายว่า ผมมั่นใจว่าการประชุมใหญ่สามัญปี 2568 ของสภาอุตสาหกรรม จ.สระบุรี ในวันนี้ จะเป็นเวทีที่ดีในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กำหนดแนวทาง และร่วมกันวารากฐานที่มั่นคงให้กับอุตสาหกรรมของ จ.สระบุรี ผมขอขอบคุณสภาอุตสาหกรรม จ.สระบุรี ที่ได้ทำงานอย่างหนัก เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมของจังหวัด และขอขบคุณผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ และสนับสนุนการดำเนินงานของสภาฯมาโดยตลอด ขอให้การประชุมครั้งนี้ ประความสำเร็จบรรลุวัตถุประสงศ์ทุกประการ เพื่อร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมของ จ.สระบุรีให้ก้าวหน้า และมั่นคงสืบต่อไป        

จากนั้น นายธวัชชัย สุภาผล โยธาธิการและผังเมือง จ.สระบุรี (วิทยากร) บรรยายพิเศษในหัวข้อ “ผังเมืองรวมภายในเขต จ.สระบุรี” ภายใต้บริบท ผังเมือง ปัจจุบัน เป็น อย่างไร และ ผังเมืองอนาคต จะเป็นอย่างไร (ผังเมืองคือตัวชี้วัด และจะมีผลต่อประชาชนทุกคน) พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมซักถามข้อสงสัยในประเด็นปลีกย่อยต่างๆ จนพอใจ เสร็จแล้ว เป็นการดำเนินการประชุม เป็นไปตามวาระ ที่กหนดไว้ ใช้เวลา กว่า 3 ช.ม.จึงแล้วเสร็จ