สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ว่า ตามที่รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมใช้กฎหมาย ซึ่งจะเป็นการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ใช้งานโซเชียลมีเดียโดยเด็ดขาดภายในสิ้นปีนี้ “อีเซฟตี” ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลอินเทอร์เน็ตของประเทศ เปิดเผยว่า เด็กส่วนใหญ่ในออสเตรเลียนิยมใช้ยูทูบ ติ๊กต็อก และสแนปแชต มากที่สุด
อีเซฟตีว่า แอปพลิเคชันเหล่านี้ “ขาดการแทรกแซงอย่างเข้มงวด” ในการตรวจสอบอายุผู้ใช้ โดยแพลตฟอร์มที่รายงานทำการศึกษา ได้แก่ ดิสคอร์ด เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม เรดดิต สแนปแชตทวิตช์ และยูทูบ
รายงานยกตัวอย่าง “ยูทูบ” ที่มีระบบครอบครัว (Family Link) ซึ่งอนุญาตบัญชีสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ภายใต้การดูแลของผู้ปกครอง และแอปพลิเคชันสำหรับเด็กอย่างยูทูบ คิดส์ (Youtube Kids) ขณะที่มีรายงานว่า ยูทูบอาจได้รับการยกเว้นจากมาตรการแบนโซเชียลมีเดียของรัฐบาลออสเตรเลีย
ด้านติ๊กต็อกและเมตาออกมาตอบโต้รัฐบาลออสเตรเลีย ว่ารายงานฉบับดังกล่าว ย้ำถึงการตัดสินใจของภาครัฐ ที่จะให้การยกเว้นแก่ยูทูบ พร้อมย้ำว่าพ่อแม่และผู้ปกครองมีสิทธิที่จะทราบถึงหลักฐานประกอบการตัดสินใจของรัฐบาล
เมตาซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม ระบุว่า วิธีที่ดีที่สุดในการยืนยันอายุ คือการตรวจสอบอายุจริงของผู้ใช้โดยระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์และแอปสโตร์ เพื่อให้สามารถแจ้งอายุของผู้ใช้งาน ไปยังบริษัทโซเชียลมีเดียทั้งหมดได้ในภายหลัง
อนึ่ง ผลการสอบถามเด็กมากกว่า 1,500 คนในออสเตรเลีย ที่มีอายุ 8-15 ปี พบว่า 84% ของเด็กอายุ 8-12 ปี ใช้โซเชียลมีเดีย หรือบริการส่งข้อความอย่างน้อย 1 รายการ และมากกว่าครึ่งหนึ่งใช้โซเชียลมีเดียผ่านบัญชีของผู้ปกครองหรือผู้ดูแล
ในทางกลับกัน มีบัญชีของเด็กเพียง 13% ซึ่งไม่สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มได้ เนื่องจากมีอายุต่ำกว่า 13 ปี
รายงานทิ้งท้ายว่า มีการสอบถามไปยังแพลตฟอร์มต่าง ๆ เกี่ยวกับการตรวจจับผู้ใช้ที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี โดยบริษัทเหล่านี้ระบุว่า การนำเครื่องมือหรือเทคโนโลยีเชิงรุกมาใช้ ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน รวมถึงการเชื่อมต่อ สื่อสาร และสร้างเนื้อหาร่วมกัน เพื่อตรวจจับสัญญาณของการละเมิดนโยบาย.
เครดิตภาพ : AFP
