เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาชน เกี่ยวกับการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ที่ฝ่ายค้านกำหนดจะยื่นญัตติต่อประธานสภา ในวันที่ 27 ก.พ. ว่า เดิมพรรคประชาชนวางเป้าซักฟอก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ บวกรัฐมนตรี รวม 10 คน แต่ล่าสุด ทีมยุทธศาสตร์ พรรคประชาชน สับขาหลอกเปลี่ยนแผน โดยแผนใหม่จะล็อกเป้ายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร เพียงผู้เดียวเท่านั้น สำหรับเหตุผลของการสับขาหลอกนั้น เนื่องจากเกิดกรณีข้อสอบรั่ว เกลือเป็นหนอน ภายในพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งทางทีมยุทธศาสตร์ ไม่แน่ใจว่าเป็นพรรคใด ที่แอบส่งการบ้าน รายชื่อรัฐมนตรี 10 คน รวมถึงพฤติการณ์ต่างๆ ของรัฐมนตรี ที่ถูกจับขึ้นเขียง ไปให้สื่อมวลชนนำไปเผยแพร่ ช่วงบ่ายวันที่ 26 ก.พ. เสมือนเป็นการปล่อยข่าวส่งซิกไปให้รัฐบาลล่วงหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอีกเหตุผลของการจับนายกรัฐมนตรี ขึงพืด ขึ้นเขียงแต่เพียงผู้เดียว เพราะต้องการดัดหลัง สั่งสอนรัฐบาล กรณีที่ฝ่ายค้านส่งสัญญาณขอเวลาในการอภิปรายไป 5 วัน เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลอย่างเต็มที่ แต่ทางรัฐบาลไม่สนใจ ส่งสัญญาณตัดเวลาให้อภิปรายเพียง 2 วัน ดังนั้น ทีมยุทธศาสตร์จึงตัดสินใจเปลี่ยนแผน จัดหนักนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียวไปเลย เวลาอภิปรายจะได้เพียงพอ นอกจากนี้ ทีมยุทธศาสตร์ ยังมองว่า การหว่านแหอภิปรายรัฐมนตรีบวกนายกฯ รวม 10 คน อาจจะสูญเปล่า อภิปรายไม่เข้าเป้า อีกทั้งยังอาจจะเปิดช่องให้นายกรัฐมนตรี ลอยตัวเหนือปัญหาให้คนอื่นมาตอบแทน เลยเปลี่ยนแผนให้โฟกัสไปที่ตัวนายกฯ คนเดียวไปเลย 

ทีมยุทธศาสตร์ พรรคประชาชน มองว่า ด้วยสภาพสถานการณ์การเมืองขณะนี้ ต้นตอของปัญหาจริงๆ คือรัฐบาลนี้ ยอมแลกผลประโยชน์ของประเทศชาติ เพื่อให้ผลประโยชน์ของตัวเองและครอบครัว อีกทั้งยอมแลกทุกอย่างจนทุกอย่างพังไปหมด เลยต้องถอนรากถอนโคนที่คนๆ นี้เพียงคนเดียว และให้นำไปสู่การยุบสภา แม้จะล็อกเป้าอภิปรายนายกฯ เพียงคนเดียว แต่จะมีการอภิปรายสาวไส้ขยายผลแต่ละกระทรวงด้วย ดังนั้นในส่วนที่ฝ่ายค้านมองว่า กระทรวงใดมีความผิดที่ชัดเจน จะมีการโรยเกลือ ยื่นร้อง ป.ป.ช. หลังจากศึกซักฟอกต่อไป ไม่มีละเว้น.