สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกินชาซา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (ดีอาร์คองโก) เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ว่า สำนักงานประจำภูมิภาคแอฟริกาขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) รายงานว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หลังมีประชาชนล้มป่วยสะสมอย่างน้อย 419 คน และเสียชีวิตแล้ว 53 ราย ในดีอาร์คองโก โดยส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคทางเหนือของประเทศ นับตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโรคเริ่มที่หมู่บ้านชื่อ “โบโลโก” เมื่อเด็ก 3 คน เสียชีวิตภายในระยะเวลาเพียง 48 ชั่วโมง และเด็กทั้งสามคนมีประวัติรับประทานค้างคาว


อาการป่วยที่เกิดขึ้น รวมถึง มีไข้ อาเจียน และมีเลือดออกภายใน ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นลักษณะของ “ไข้เลือดออกจากไวรัส” ส่วนใหญ่พบในผู้ป่วยโรคอีโบลา ไข้เลือดออก มาร์บูร์ก และไข้เหลือง


อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญตัดความเกี่ยวข้องกับโรคเหล่านี้ออก หลังผลตรวจตัวอย่างมากกว่า 12 รายการ ระบุเป็นลบ แต่ตัวอย่างบางรายการให้ผลเป็นบวกต่อเชื้อโปรโตซัวของโรคมาลาเรีย และยังไม่มีความชัดเจนว่า ผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตรายอื่นรับประทานค้างคาว หรือสัตว์ชนิดอื่นใดหรือไม่

อนึ่ง ดับเบิลยูเอชโอ เคยรายงานเมื่อปี 2565 ว่า ทวีปแอฟริกามีแนวโน้มเกิดการรแพร่ระบาดของโรคติดต่อจากคนสู่สัตว์ ในพื้นที่ซึ่งยังคงมีการบริโภคสัตว์ป่า เพิ่มขึ้นมากกว่า 60% ในช่วงทศวรรษล่าสุด


ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว มีรายงานโรคปริศนาอีก ซึ่งมีอาการคล้ายไข้หวัด และคร่าชีวิตผู้คนหลายสิบรายในดีอาร์คองโก ซึ่งดับเบิลยูเอชโอสันนิษฐานว่า อาจเป็นโรคมาลาเรีย.

เครดิตภาพ : AFP