เมื่อวันที่ 28 ก.พ. นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากที่ผ่านมา มีรายงานพบการกระทำผิดเกี่ยวกับยาทรามาดอล ซึ่งเป็นยาแก้ปวดที่จัดอยู่ในกลุ่มยาอันตรายที่อนุญาตให้จำหน่ายได้ในร้านขายยาที่มีเภสัชกรเท่านั้น และจำหน่ายได้ครั้งละไม่เกิน 20 เม็ด แต่กลับพบว่า มีการลักลอบขายให้คนที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยาดังกล่าว นอกจากนี้ ยังพบการลักลอบขายในร้านที่ไม่มีเภสัชกร ตลอดจนมีการลักลอบผลิตยาปลอมออกมาขาย เพื่อหวังผลนำไปประกอบเป็นยาเสพติดอื่น ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) มีความห่วงใย และมองว่า ให้มีแนวทางควบคุมกำกับว่าจะทำอย่างไร มีการหารือหลายฝ่าย และเห็นว่า ควรมีการควบคุม ให้สั่งจ่ายโดยแพทย์ในสถานพยาบาลเท่านั้น ดังนั้น ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างการรับฟังความเห็น จนถึงวันที่ 8 มี.ค. นี้ ในการออกเป็นประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยาควบคุมพิเศษ ฉบับที่… (ยาทรามาดอล tramadol ตำรับยาเดี่ยว ชนิดรับประทาน)

เมื่อถามถึงสถิติคนที่จำเป็นต้องใช้ยาทรามาดอลจริงๆ นพ.สุรโชค กล่าวว่า จำนวนคนที่จำเป็นจริงๆ นั้น อาจไม่สามารถบอกได้ชัดเจน เพราะระบบการสั่งจ่ายยาตัวนี้ เพราะบางคน เช่น คนไข้มะเร็ง ที่ต้องกินยาแก้ปวด แต่ไม่สามารถกินยาแก้ปวดแรงๆ ได้ หรือคนที่แพ้ยาแก้ปวดกลุ่มเอ็นเสด (NSIADs) เช่น คนไข้โรคตับ โรคไต เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคนไข้มะเร็ง ปัจจุบันเราคิดว่า เรามีสถานพยาบาลที่ใกล้บ้านคนไข้ จึงสามารถรองรับได้ ส่วนคนที่ต้องกินยาแก้ปวดชนิดที่ไม่สามารถหาซื้อได้ตามปกติ ตัวเลขยังไม่ชัดเจน อันนี้เลยทำให้เป็นที่ถกเถียง เพราะเรามองว่า ตัวเลขของคนที่จำเป็นจริงๆ น่าจะอยู่ที่โรงพยาบาล จึงเป็นที่มาของการพูดคุยกันว่าจะควบคุมอย่างไร

เมื่อถามว่า ทางศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) แสดงความห่วงใยว่า จะทำให้ประชาชนเข้าไม่ถึงการใช้ยา เหมือนกับกรณียกระดับการควบคุมยาซูโดอีเฟดรีน ที่มีปัญหาลอบเอาไปผลิตยาเสพติดเหมือนกัน นพ.สุรโชค กล่าวว่า 2 ตัวนี้ไม่เหมือนกัน โดยยาซูโดฯ เอาไว้ใช้รักษาโรคหวัด ภูมิแพ้ คัดจมูก เป็นโรคพื้นๆ ที่เจอได้บ่อย เป็นกลุ่มที่ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล ในขณะที่ยาทรามาดอล กลุ่มคนใช้ยานี้ส่วนใหญ่เพราะป่วยโรคที่จำต้องไปโรงพยาบาลอยู่แล้ว แน่นอนว่า มีบางกลุ่มไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล แต่จำเป็นต้องเข้าถึงยาก็อาจจะเข้าถึงยากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเข้าถึงไม่ได้ เพียงแค่ยากกว่าเดิม ซึ่งตัวเลขนี้ไม่ชัดเจน ก็ต้องชั่งใจว่า การเอาไปใช้ในทางที่ผิด กับการเข้าถึง ทุกอย่างต้องสมดุล

“มันไม่เหมือนกับยาซูโดฯ แต่ตอนนั้นซูโดฯ เราจำเป็นต้องขยับไปควบคุม เนื่องจากว่าเมื่อก่อนมีการลักลอบนำยาซูโดฯ ไปทำยาบ้า แต่ปัจจุบัน พวกยาบ้าก็มีการเปลี่ยนไปใช้ยาอื่นแทนซูโดฯ แต่เมื่อชั่งน้ำหนักตอนนั้นทุกคนเห็นว่า มีการลักลอบเอาไปทำยาบ้า เราเลยต้องขยับการควบคุม ส่วนทรามาดอลตอนนั้น เราก็คิดว่า ขยับการควบคุมครั้งแรกแล้วจะสามารถลดการเอาไปใช้ในทางที่ผิดได้ แต่ก็ยังเกิดอย่างนี้อยู่ เลยต้องถกกันอีก ถ้ามันชัดเจน มันไม่ดีแน่นอน เราคงดำเนินการเข้มไปตั้งแต่แรก” นพ.สุรโชค กล่าวและว่า การที่เราต้องไปจับ ไปปิดร้านขายยา ก็เพราะขายให้เด็ก ขายให้คนที่ไม่จำเป็นต้องใช้จริงๆ การจับกุมไม่ลดลงเลย เฉลี่ยที่เข้าคณะกรรมการยา เดือนละ 3-4 ราย ส่วนใหญ่ที่ทำผิดต้องพักใช้ใบอนุญาต ก็เพราะจำหน่ายยาทรามาดอลไม่ถูกต้อง.