ที่เทศบาลตำบลจริม อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ติดตามโครงการเร่งรัดแก้ปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย และการดำเนินมาตรการลดข้อขัดแย้งระหว่างรัฐกับประชาชน กรณีพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่าน อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ โดยมี นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์, นายวารุจ ศิริวัฒน์, นางสาวกฤษณา สีหลักษณ์, นายรวี เล็กอุทัย 3 ส.ส. จ.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นำพี่น้องประชาชนพื้นที่ คทช. จ.อุตรดิตถ์ ร่วมรับฟัง ติดตามความคืบหน้า และแนวทางปฏิบัติ

ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผอ.สำนักงานคณะกรรมการนโนยายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) รายงานผลการดำเนินงาน คทช.กรณีพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่าน เป็นพื้นที่ประสบปัญหาโดยราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์ ชาวบ้านอพยพอาศัย ทำกินที่ของรัฐจัดสรร ปรากฏว่าแนวเขตนิคมฯบางส่วนทับซ้อนกับที่ดินรัฐหลายหน่วยงาน ทำให้นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่านไม่สามารถออกหนังสือ น.ค.3 ให้แก่ราษฎรเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการออกโฉนดที่ดิน ผลกระทบดังกล่าวยาวนานกว่า 50 ปี  ราษฎรที่อพยพจากการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ 1,013 ครอบครัว ภาพรวม คทช.จ.อุตรดิตถ์ พื้นที่เป้าหมาย 311,757 ไร่

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวพบปะพี่น้องประชาชน พร้อมแจ้งข่าวดีว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา  เห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินราษฎรบริเวณนิคมสร้างตนเองลำน้ำน่าน จ.อุตรดิตถ์ ผ่านการจัดทำ One Map แก้ปัญหาให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์ที่มีมายาวนาน 57 ปี หรือกว่าครึ่งศตวรรษ ราษฎรเตรียมได้สิทธิครอบครองที่ดินอย่างถูกกฎหมาย

นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยและให้ความสำคัญ  หลัง ครม.มีมติเห็นชอบแนวทางการปรับปรุงแนวเขตที่ดินของรัฐ เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของราษฎรในพื้นที่นิคม สร้างตนเองลำน้ำน่าน จ.อุตรดิตถ์ ได้มีข้อสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแก้ไขปัญหาเร่งดำเนินงานตาม กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎร จากเดิมภายใน 360 วัน ปรับให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรที่รอคอยและต่อสู้มายาวนาน 57 ปี ให้ได้รับสิทธิในที่ดินทำกินสามารถนำเอกสารสิทธิที่ดินไปใช้ในการออกโฉนดที่ดินได้ตามกฎหมาย เป็นความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

  พร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรี ยังได้รับหนังสือจากผู้นำตัวแทนชาวบ้าน เร่งรัดเรื่องที่ดิน คทช. ในส่วนที่เหลือของ จ.อุตรดิตถ์  และได้พบปะพี่น้องประชาชน พร้อมกล่าวแสดงความยินดีที่ความฝันเป็นความจริง ราษฎรที่เสียสละและอพยพจากการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ จะได้รับเอกสารสิทธิ์ที่ดินอย่างถูกต้อง จากนั้นคณะได้เดินทางต่อไปยังโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.อุตรดิตถ์ และเดินทางร่วมคณะนายกรัฐมนตรีตรวจราชการพื้นที่ จ.สระแก้วต่อไป